โพสต์โดย : Admin เมื่อ 11 มี.ค. 2559 05:52:55 น. เข้าชม 768 ครั้ง แจ้งลบ
หงส์แดงจัดการเอาคืนจากที่แพ้มาในเกมลีกฤดูกาลนี้ทั้งเหย้าและเยือน ชำระบัญชีแค้นกับปีศาจแดงสำเร็จจนได้ ในเกมแดงเดือดฉบับยูโรป้าลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเจ้าบ้าน ปรับทัพจากเกมก่อนในพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่บุกชนะคริสตัล พาเลซ 2-1 ทั้งสิ้น 3 ราย ได้แก่ นาธาเนียล ไคลน์, ฟิลิปป์ คูตินโญ และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งได้โอกาสตัวจริงแทน จอน ฟลานาแกน, เจมส์ มิลเนอร์ และ ดีว็อค โอริกี
ด้านทีมเยือนของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งคุมทัพปีศาจแดงเอาชนะหงส์แดงมาได้ 5 นัดรวดติดต่อกันแล้ว โดยนับรวมเกมอุ่นเครื่องด้วย ปรับมาใช้นักเตะที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์บุกแพ้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-1 ลงเป็น 11 คนแรก คือ กิเยร์โม บาเรลา และ มารูยาน เฟลไลนี
ออกสตาร์ตเกมเพียง 20 นาทีเท่านั้น เป็นลิเวอร์พูลที่มาได้จุดโทษอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ไคลน์ โดน เมมฟิส เดปาย ทำฟาวล์บนเส้นกรอบ 18 หลา และทำให้แนวรุกชาวดัตช์โดนใบเหลืองไปด้วย ก่อนจะเป็น สเตอร์ริดจ์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ส่งให้หงส์แดงออกนำ 1-0
หลังจากนั้นยังเป็นอดีตรายการนี้ 3 สมัย เมื่อครั้งยังใช้ชื่อว่ายูฟ่าคัพ ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แต่กลับยังไม่สามารถบวกลูกสองเพิ่มเติมได้ เนื่องจากเจอฟอร์มสุดหนึบของ ดาบิด เด เฮอา ที่โดนยิงมารูปแบบไหนก็ปัดป้องไว้ได้หมด ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลังแมนฯยูฯที่สกอร์เป็นรองตัดสินใจแก้เกมทันที ด้วยการถอดแนวรุกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ออก แล้วส่ง ไมเคิล คาร์ริค ลงมายืนเป็นกองหลังตัวสุดท้าย พร้อมกับระบบมาใช้ 3-5-2 โดยมีสองสต็อปเปอร์เป็น คริส สมอลลิง กับ มาร์กอส โรโฆ และถ่าง ดาลีย์ บลินด์ ไปเล่นวิงแบ็คซ้าย
แม้การแก้เกมของปีศาจแดงจะทำให้สามารถครองบอลบุกได้มากขึ้น แต่แล้วกลับเป็นหงส์แดงที่มาบวกลูกสองเพิ่มอีกจนได้ ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลขากสุดเส้นหลังฝั่งขวาไปโดน คาร์ริค เคลียร์ไม่ขาดมาเข้าทาง ลัลลานา จิ้มต่อให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน แปด้วยซ้ายระยะเผาขนเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0
หลังจากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลที่ล้างแค้นเอาชนะไปได้สำเร็จ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนที่นัดสองจะโยกไปเตะในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดบ้าง คืนวันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคมนี้ 3.05 น. ตามเวลาประเทศไทย