โพสต์โดย : Admin เมื่อ 17 ก.พ. 2559 04:14:31 น. เข้าชม 997 ครั้ง แจ้งลบ
ทีมจากโปรตุเกสได้ประตูจากลูกโหม่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเฉือนเอาชนะเซนิตที่เหลือผู้เล่นสิบคนไป 1-0 กุมความได้เปรียบรอลุ้นกันต่อที่รัสเซียนัดที่สอง
เบนฟิก้าของรุย วิโตเรีย มีคอสตาส มิโตรกลูยืนเป็นหน้าเป้า ส่งนิโกลัส ไกตัน, ปิซซีและ โจนาสลงทำเกมในแดนกลาง โดยวันนี้ยังให้โอกาสดาวรุ่งอายุ 18 ปีอย่างเรนาโต้ ซานเชซยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ร่วมด้วย ในแนวรับวิคเตอร์ ลินเดลอฟที่เพิ่งได้มีโอกาสสัมผัสเกมชุดใหญ่เพียงแค่ 4 เกมก่อนหน้านี้ยืนประจำการ รวมถึงแบ็คซ้ายชื่อคุ้นหูอย่างเอลิซูยังคงได้รับโอกาสเช่นกัน
ส่วนทางด้านทีมเยือนจากรัสเซียของอังเดร บิยาส-โบอาส อดีตกุนซือของสเปอร์สมีผู้เล่นตัวหลักให้ใช้งานครบถ้วนหลังจากลีกของหมีขาวหยุดพักไปกว่าสองเดือน โดยแดนกลางมีฆาบี การ์เซียและอเซล วิตเซลประคองเกม แนวรุกมีดาวดังอย่างแดนนี่และฮัลค์ทำเกมล่าประตู โดยให้กองหน้าที่ยิงไปแล้ว 8 ประตูใน 18 เกมอย่างอาร์เต็ม ซูย์บายืนเป็นหน้าเป้า อีกทั้งยังมียูริ เชอร์คอฟและอเล็กซานเดอร์ โคโครินรอโอกาสอยู่บนม้านั่งสำรอง
เริ่มเกมมาในช่วง 10 นาทีแรกเป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมได้มากกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสในพื้นที่สุดท้ายจนนำไปสู่การทำประตูได้
ผ่านมากกว่า 20 นาทีแล้วแต่เกมยังดูอึดอัดกันทั้งสองฝ่าย โดยบอลส่วนมากจะถูกตัดกันในแดนกลางเสียเป็นส่วนใหญ่ สถิติการยิงประตูเพิ่งมีโอกาสรวมกันเพียง 1 ครั้งเท่านั้นซึ่งเป็นของฝฝั่งเจ้าถิ่นที่ได้โอกาสซัดไปก่อนในช่วงต้นเกม
นาทีที่ 29 ทีมเหยี่ยวลิสบอนเฉียดฉิวจะได้ประตูขึ้นนำจากการพักบอลลงของมิโตรกลูก่อนส่งสั้นให้กับโจนาสได้โอกสยิงไกลนอกกรอบ บอลพุ่งแฉลบกองหลังของทีมจากแดนหมีขาวเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียวเท่านั้น ได้เป็นเพียงลูกเตะมุม
เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงท้ายของครึ่งแรก แต่เกมยังคงรูปแบบเหมือนเดิม ทั้งสองทีมไม่มีโอกาสเข้าทำที่ชัดเจนเลย ทำให้ความตื่นเต้นในเกมค่อนข้างน้อยด้วยจังหวะการเล่นที่ช้าและระวังตัวกันทั้งสองฝ่าย
หลังจากนั้นผู้ตัดสินจึงเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันไปในช่วงเวลาครึ่งแรก คงต้องรอดูการปรับแก้เกมจากผู้จัดการทีมว่าจะทำให้จังหวะการเล่นน่าดูน่าชมขึ้นได้ขนาดไหน
ช่วงพักครึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากกุนซือทั้งสองทีม 22 ตัวผู้เล่นยังคงเดิมจากในครึ่งแรก
กว่าจะมีจังหวะได้ลุ้นในช่วง 45 นาทีหลังครั้งแรกก็เข้าสู่นาทีที 57 โดยเป็นเจ้าบ้านเหมือนเดิมที่ได้ยิงไกลจากนอกกรอบอีกครั้งจากเท้าขวาของปิซซี และคราวนี้ก็ยังคงวางเท้าได้ไม่ดีทำให้บอลปลิ้นหลุดกรอบเสาไกลออกไป
มีการเปลี่ยนตัวคนแรกจากทางฝั่งรุย วิโตเรีย โดยถอดเอาคอสตาส มิโตรกลู กองหน้าชาวกรีซออกไปแล้วส่งราอูล ฆิมิเนซ ศูนย์หน้าสัญชาติเม็กซิกันลงมาแทน
นาทีที่ 69 โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดในเกมตั้งแต่เริ่มมาเป็นของนิโกลัส ไกตัน ดาวเตะอาร์เจนไตน์ โดยได้มีโอกาสยิงจากทางฝั่งซ้ายของกรอบประตูจากการจ่ายสั้ยไปให้ของการ์เซีย แต่ลูกยิงไปติดนายทวารโลดิกินกระดอนออกมาก่อนแข้งรายเดิมจะได้โอกาสซ้ำอีกครั้งแต่ก็ยังติดผู้รักษาประตูทีมเยือนออกหลังไป
เข้าสู่ช่วงสิบนาทีสุดท้ายของเกม เป็นเจ้าบ้านที่ดูเหนือกว่าอยู่นิดหน่อยเท่านั้น แต่การทำเกมก็ยังคงไม่ไหลลื่นและถูกตัดบอลในแดนกลางอยู๋บ่อยครั้ง รวมถึงจังหวะจ่ายบอลผิดพลาดกันในพื้นที่สุดท้ายอยู่ตลอดซึ่งทำให้เกมในครึ่งหลังไม่ได้แตกต่างไปจากครึ่งแรกเลยแม้แต่น้อย
มามีใบแดงเกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน โดยเป็นโดมินิโก้ คริซิโต แบ็ตซ้ายขาวอิตาลีของเซนิตที่ไปทำฟาวล์ผู้เล่นของเบนฟิก้าจนเป็นใบเหลืองใบที่สองถูกไล่ออกจากสนามไป
จังหวะต่อเนื่องจากลูกฟาวล์ของคริซิโต้ นิโกสลัส ไกตันเปิดฟรีคิกจากทางขวาของสนามเข้าให้กับโจนาสเทคตัวขึ้นโหม่ง บอลย้อนทางเข้าเสาแรกไปให้เหยี่ยวลิสบอนขึ้นนำในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1-0
หลังจากนั้นไม่นานผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาการแข่งขัน เบนฟิก้าเอาชนะเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กไปได้หวุดหวิด 1-0 รักษาความได้เปรียบในเรื่องประตูรวมไว้ได้ก่อนจะไปแข่งกันต่อที่บ้านของทีมจากรัสเซียในนัดต่อไป