โพสต์โดย : Admin เมื่อ 14 ธ.ค. 2568 07:30:48 น. เข้าชม 51 ครั้ง แจ้งลบ

"ปราสาทเรือนแก้ว" เปิดบ้านดวลเดือด "เรือใบสีฟ้า" ศึกหัวตารางท็อปโฟร์
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | เกมสัปดาห์ที่ 16 | วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2025
พรีวิว
การพบกันสุดระทึกใจของคู่ชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2024-25! คริสตัล พาเลซ เตรียมเปิดบ้าน เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกบิ๊กแมตช์แย่งชิงพื้นที่ ท็อปโฟร์ ของศึก พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้
ทั้งสองทีมต่างทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเวทียุโรปกลางสัปดาห์ โดยฝั่ง "เรือใบสีฟ้า" สามารถบุกไปเฉือนเอาชนะ เรอัล มาดริด 2-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ส่วน "ปราสาทเรือนแก้ว" ก็เปิดบ้านถล่ม เชลบอร์น 3-0 ในรายการ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก
แมตซ์ พรีวิว
คริสตัล พาเลซ
คริสตัล พาเลซ ของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ เพิ่งโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์ เอฟเอ คัพ ด้วยการบุกไปเอาชนะทีมรองบ่อนอย่าง เชลบอร์น ขาดลอย 3-0 ที่ ทอลกา พาร์ค โดยได้ประตูจาก คริสตันตัส อูเช่, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ เยเรมี่ ปิโน่ อย่างไรก็ตาม กลาสเนอร์ อาจบ่นว่าทีมควรยิงได้มากกว่านี้ เนื่องจากพลาดโอกาสทำประตูไปนับไม่ถ้วน ซึ่งความผิดพลาดในการจบสกอร์แบบนี้อาจส่งผลเสียร้ายแรงเมื่อต้องมาเจอกับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้
อย่างไรก็ตาม "ปราสาทเรือนแก้ว" ซึ่งเป็นเจ้าของถ้วย เอฟเอ คัพ กำลังได้กลับมาเล่นในบ้านหลังจากคว้าชัยชนะนอกบ้านได้ติดต่อกัน 3 นัด ทั้งการเอาชนะ เบิร์นลีย์, ฟูแล่ม ในลีก และล่าสุดคือ เชลบอร์น ในยุโรป ซึ่งชัยชนะสองเกมในลีกทำให้พวกเขาทะยานขึ้นสู่โซน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จหลังผ่านไป 15 นัด
เจ้าบ้านเพิ่งแพ้ในบ้านแค่เกมเดียวในฤดูกาลนี้ คือการแพ้ต่อคู่ปรับร่วมเมืองของ ซิตี้ อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และชนะในบ้านได้เพียง 2 จาก 7 นัดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-26 โดยเสมอกับคู่แข่งในบ้านไปถึง 4 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดในลีกสูงสุดของอังกฤษ และนัดนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 แต่ก่อนหน้านั้น ซิตี้ เคยเปิดบ้านถล่มไปถึง 5-2 ก่อนที่ เอเบเรชี่ เอเซ่ จะยิงประตูชัยให้ พาเลซ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในเวลาต่อมา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้จะไม่มีการดวลกันที่แฟนบอลรอคอยระหว่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เนื่องจากอาการบาดเจ็บของรายหลัง แต่ ฮาลันด์ ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นผู้ยิงจุดโทษตัดสินในเกมที่ "เรือใบสีฟ้า" บุกไปเอาชนะแนวรับที่อ่อนแอของ เรอัล มาดริด 2-1 โดยได้ประตูนำก่อนจาก โรดรีโก้ และ นิโก้ โอ'ไรลลี่ ก่อนที่ลูกจุดโทษของ ฮาลันด์ จะพาให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าชัยชนะใน แชมเปียนส์ ลีก ที่บ้าน เรอัล มาดริด เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ และเป็นการชนะติดต่อกันเป็นนัดที่สี่ในทุกรายการ
หลังจากเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด, ฟูแล่ม และล่าสุด ซันเดอร์แลนด์ ในเกมลีก "เรือใบสีฟ้า" ก็ยังคงเกาะติด อาร์เซน่อล อย่างเหนียวแน่น โดยตามหลังจ่าฝูงอยู่เพียง 2 คะแนน แต่ "ปืนใหญ่" ของ มิเกล อาร์เตต้า อาจจะทำคะแนนหนีออกไปชั่วคราวหากสามารถเอาชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในวันเสาร์ได้
อย่างไรก็ตาม หาก อาร์เซน่อล พลาดท่า แมนฯ ซิตี้ ก็จะมีโอกาสขึ้นไปเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ซึ่งอาจทำให้ กวาร์ดิโอล่า สร้างสถิติเทียบชั้นผู้จัดการทีมระดับตำนานได้ โดย แมนฯ ซิตี้ ชนะในลีกสูงสุดโดยยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ไปแล้ว 149 นัด ซึ่งมีเพียง 2 ผู้จัดการทีมเท่านั้นที่ทำทีมชนะใน พรีเมียร์ลีก โดยยิงได้อย่างน้อย 3 ประตู ได้ถึง 150 นัดขึ้นไปคือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (245 นัด) และ อาร์แซน เวนเกอร์ (228 นัด)
ฟอร์มล่าสุด
คริสตัล พาเลซ พรีเมียร์ลีก: ชนะ เสมอ ชนะ แพ้ ชนะ ชนะ
คริสตัล พาเลซ ทุกรายการ: ชนะ แพ้ แพ้ ชนะ ชนะ ชนะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พรีเมียร์ลีก: ชนะ ชนะ แพ้ ชนะ ชนะ ชนะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุกรายการ: แพ้ แพ้ ชนะ ชนะ ชนะ ชนะ
สภาพความพร้อมของทีม
คริสตัล พาเลซ
แฟนบอล คริสตัล พาเลซ กำลังลุ้นว่า ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (หัวเข่า) และ อิสไมล่า ซาร์ (ข้อเท้า) จะพร้อมลงสนามได้หรือไม่ แต่ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ คาดหวังว่าทั้งคู่จะฟิตทัน นอกจากนี้ เจย์ดี คานวอต (ป่วย) กองหลังตัวกลางก็มีลุ้นกลับมา แต่ แดเนียล มูนอซ แบ็คที่กำลังทำผลงานได้ดีจะหมดสิทธิ์ลงสนามจนถึงปี 2026 เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า โดยจะไปรวมกับผู้เล่นที่บาดเจ็บยาวก่อนหน้าอย่าง เชค ดูกูเร่ (หัวเข่า), ชาดี้ เรียด (หัวเข่า), ริโอ คาร์ดิเนส (ขาหนีบ) และ คาเลบ คอร์ปฮา (หลัง)
นอกจากนี้ จัสติน เดเวนนี่ ก็มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในช่วงท้ายเกมที่ชนะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเขาเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คขวาจำเป็น แต่ก็คาดว่า นาธาเนียล ไคลน์ จะได้กลับมาลงสนามเพื่อรับมือกับ แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในส่วนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาดว่าผู้เล่นตัวหลักจะยังคงสภาพความฟิตได้ตามปกติในวันอาทิตย์นี้ โดยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงต้องขาด จอห์น สโตนส์ (ไม่ระบุ), โรดรี (แฮมสตริง) และ มาเตโอ โควาซิช (ข้อเท้า) ต่อไป
ในเกมกับ เรอัล มาดริด กุนซือชาวคาตาลันได้ใช้ผู้เล่นชุดเดิมกับที่เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ด้วยโปรแกรมที่ต้องลงเล่นอีกสามนัดจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม อาจมีการเปลี่ยนแปลงหนึ่งหรือสองตำแหน่ง โดยการส่ง ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ลงมาแทนที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ถือเป็นการปรับเปลี่ยนที่ชัดเจนที่สุด แต่คาดว่า ราย็อง แชร์กี้ และ เฌเรมี่ โดกู จะยังคงรักษาตำแหน่งตัวจริงไว้ได้ในการเจอกับเจ้าของถ้วย เอฟเอ คัพ
คาดการณ์ผู้เล่น
คริสตัล พาเลซ: เฮนเดอร์สัน; ริชาร์ดส, ลาครัวซ์, กูเอฮี; ไคลน์, วาร์ตัน, คามิวดะ, มิทเชลล์; ปิโน่, เอ็นเคเทียห์; มาเตต้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้: ดอนนารุมม่า; นูนเญส, ดิอาส, กวาร์ดิโอล, โอ'ไรลลี่; กอนซาเลซ; แชร์กี้, ไรน์เดอร์ส, โฟเด้น, โดกู; ฮาลันด์
วิเคราะห์คาดการณ์
การพบกันครั้งนี้เป็นเกมที่คู่คี่อย่างมาก แม้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมีฟอร์มที่แข็งแกร่งและเพิ่งเก็บชัยชนะติดต่อกันมาได้ แต่การที่ต้องเดินทางไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่ประเทศสเปนกลางสัปดาห์ อาจส่งผลต่อความล้าของนักเตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดผู้เล่นสำคัญในแดนกลางอย่าง โรดรี ซึ่งทำให้ทีมเสียสมดุลไปพอสมควร ขณะที่ คริสตัล พาเลซ ก็เพิ่งลงเล่นในถ้วยเล็กอย่าง ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก และมีการโรเตชั่นผู้เล่นไปบ้าง
คริสตัล พาเลซ เองก็มีสถิติการเล่นในบ้านที่ไม่แพ้ใครบ่อยนักในฤดูกาลนี้ โดยมีการเสมอในบ้านถึง 4 ครั้ง มากกว่าทีมอื่น ๆ ในลีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นทีมที่จัดการได้ยากเมื่อเล่นที่ เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ประกอบกับแรงผลักดันจากการอยู่ในโซน แชมเปียนส์ ลีก และความหวังว่า ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า จะฟิตกลับมาลงสนามทัน ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในแนวรุกให้กับทีม อย่างไรก็ตาม การขาด แดเนียล มูนอซ และปัญหาในการจบสกอร์ที่เห็นได้ชัดในเกมยุโรป อาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการเจอกับแนวรับที่แข็งแกร่งของ ซิตี้
จากสภาพความพร้อมของทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ ยังคงเป็นทีมที่มีคุณภาพผู้เล่นที่เหนือกว่า แม้ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นบ้างเพื่อรับมือกับโปรแกรมที่ถี่ แต่การมี เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝัก และการที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีเป้าหมายในการทำสถิติสำคัญ รวมถึงการแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ทำให้พวกเขาไม่สามารถประมาทในเกมนี้ได้เลย เชื่อว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ตึงเครียด แต่ด้วยความเด็ดขาดในการเข้าทำที่เหนือกว่า จะทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเก็บสามแต้มได้แบบหืดขึ้นคอ
คาดการณ์สกอร์: คริสตัล พาเลซ 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ข้อมูลที่น่าสนใจ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ: "เรือใบสีฟ้า" ชนะติดต่อกัน 4 นัดในทุกรายการ และกำลังลุ้นโอกาสขึ้นนำจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก หาก อาร์เซน่อล พลาดท่าในวันเสาร์ แม้จะขาดผู้เล่นตัวหลักไปบ้าง แต่คุณภาพโดยรวมของทีมยังเหนือกว่า คริสตัล พาเลซ
สกอร์สูง (Over 2.5 Goals): แม้ว่า พาเลซ จะมีเกมในบ้านที่เหนียวแน่น แต่การเจอกับแนวรุกของ ซิตี้ ที่มีสถิติชนะด้วยการยิง 3 ประตูขึ้นไปถึง 149 นัดภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า รวมถึงการขาด โรดรี ของ ซิตี้ ทำให้เกมอาจจะเปิดและมีโอกาสทำประตูกันสูง
Both Teams to Score (BTTS) - ใช่: คริสตัล พาเลซ ทำประตูได้ในหลายเกมที่ผ่านมา และได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอล ประกอบกับ แมนฯ ซิตี้ ก็มีการเสียประตูอยู่บ้างในการแข่งขันนัดล่าสุด รวมถึงความล้าจากการเดินทางในยุโรป ทำให้มีโอกาสสูงที่ทั้งสองทีมจะทำประตูได้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูแรก: ด้วยความเด็ดขาดของแนวรุกและมีตัวทีเด็ดอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์ แม้จะต้องเล่นนอกบ้าน แมนฯ ซิตี้ มักจะเริ่มต้นเกมได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสที่จะทำประตูขึ้นนำไปก่อน