โพสต์โดย : Admin เมื่อ 14 ธ.ค. 2558 04:00:58 น. เข้าชม 1170 ครั้ง แจ้งลบ
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558
เลสเตอร์ - เชลซี
ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 4 (เวลา 03.00 น.)
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ บุกไปขย้ำ สวอนซี 3-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทีมชนะถึง 5 จาก 6 เกมหลังสุด
รานิเอรี่ และ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าจอมฮอตของทีมเพิ่งจะควงแขนกันรับรางวัลผู้จัดการทีมและนักเตะยอด เยี่ยมพรีเมียร์ ลีก ประจำเดือน พฤศจิกายน หมาดๆ
น่าเสียดายสำหรับ วาร์ดี้ ที่เกมก่อนยิงไม่ได้ ทำให้หยุดสถิติยิงติดต่อกันมา 11 นัดรวดลงแล้ว
ความพร้อมเกมนี้ทีมยังคงไม่มี ริทมี่ เดอ เลท และ แม็ตตี้ เจมส์ ที่เจ็บข้อเท้าและเข่าตามลำดับ แต่จะได้ นาธาน ดายเออร์ กลับมาคืนทีม หลังนัดก่อนลงเล่นไม่ได้ตามกฎยืมตัวมาจากทีมต้นสังกัด
การจัดทีม รานิเอรี่ คงไม่เปลี่ยนแปลงทัพเดิมที่เล่นกันได้ลงตัวอยู่แล้วนำโดย แคสเปอร์ ชไมเคิล , เวส มอร์แกน , คริสเตียน ฟุคส์ , เอนโกโล กองเต้ , ริยาด มาห์เรซ และ มาร์ค อัลไบรห์ตัน
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี นำทีมพลิกแพ้ บอร์นมัธ 0-1 คาบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ทีมแพ้ไปถึง 4 จาก 6 เกมหลัง อันดับไหลมาอยู่โซนล่างของตารางอีกแล้ว
กลางสัปดาห์ทีมสิงโตน้ำเงินครามสอย ปอร์โต้ 2-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฝ่าด่านเข้ารอบไปได้สำเร็จ
สภาพทีมนั้นไม่มีปัญหาตัวเจ็บใดๆเลยเมื่อได้ทั้ง จอห์น เทอร์รี่ และ รามิเรส หายเจ็บกลับมาลงตั้งแต่เกมยุโรปแล้ว ส่วน ราดาเมล ฟัลเกา หายเจ็บกลับมาแล้วเช่นกัน อาจจะมีชื่อเป็นสำรองเกมนี้
รายของ ดิเอโก้ คอสต้า ที่เป็นสำรองในเกมลีกมา 2 นัดติด จะกลับมาคืนตัวจริงในเกมนี้
การจัดทีมเชื่อว่า มูรินโญ่ อาจจะยึดทีมชุดเดิมจากเกมยุโรป ที่ดูจะเล่นกันได้ดี นั่นก็หมายความว่า แกรี่ เคฮิลล์ , เชส ฟาเบรกาส และ เปโดร โรดริเกซ คงจะต้องเป็นสำรองกันทั้งหมด
ขณะที่ตัวดังประจำทีมอย่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , เนมันย่า มาติช , วิลเลี่ยน และ เอเดน อาซาร์ ต่างพร้อมลงบู๊
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิล - แดนนี่ ซิมป์สัน , โรเบิร์ต ฮูธ , เวส มอร์แกน , คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ , แดนนี่ ทริงวอเทอร์ , เอนโกโล่ กองเต้ , มาร์ค อัลไบรห์ตัน - เจมี่ วาร์ดี้ , เลโอนาร์โด้ อูยัว
เชลซี : ติโบ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , เคิร์ต ซูม่า , จอห์น เทอร์รี่ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เนมันย่า มาติช , รามิเรส - วิลเลี่ยน , ออสการ์ , เอเดน อาซาร์ - ดิเอโก้ คอสต้า
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เชลซี คว้าชัยมาตลอด 6 นัดหลังสุดที่พบ เลสเตอร์ ในพรีเมียร์ลีก
- เลสเตอร์ คว้าชัยได้ 7 และแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 10 เกมลีกหลังสุดในบ้าน
- ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ชนะแค่นัดเดียวจาก 8 เกมลีกหลังสุดที่เล่นนอกบ้าน (เสมอ 2 แพ้ 5)
- ไม่มีทีมไหนที่ปล่อยให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบจากการยิงในเขตโทษ มากกว่า เชลซี (57)
- นับตั้งแต่แพ้ต่อ เชลซี เมื่อเดือนเมษายน เลสเตอร์ แพ้แค่นัดเดียวจาก 19 เกมลีกหลังจากนั้น (ชนะ 12 เสมอ 6)
- เลสเตอร์ กลับมาเก็บได้ถึง 10 แต้ม จากสถานการณ์ที่ตามหลังคู่แข่งฤดูกาลนี้ มากกว่าทุกทีมร่วมลีก
- เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัดบอลได้มากกว่าผู้เล่นรายอื่นในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ (64)
- นี่เป็นการออกสตาร์ตที่แย่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกของ เชลซี (15 แต้ม จาก 15
นัด) นับตั้งแต่ฤดูกาล 1993-94 ที่เก็บได้ 13 แต้ม จากจำนวนนัดเท่ากัน
- เจมี่ วาร์ดี้ ยิงหรือแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้ 13 เกมติดต่อกัน
ทำลายสถิติเดิมของ สแตน คอลลิมอร์ ที่ทำไว้ 12 นัด ระหว่างมีนาคมถึงสิงหาคม
1995
- เชลซี ยิงไม่ได้ 2 เกมลีกหลังสุดที่เล่นนอกบ้าน แต่ไม่เคยยิงเกมเยือนไม่ได้ 3 นัดซ้อน นับตั้งแต่เมษายน 2002