โพสต์โดย : Admin เมื่อ 11 ธ.ค. 2558 05:33:20 น. เข้าชม 1341 ครั้ง แจ้งลบ
ปีกชาวอาร์เจนไตน์ระเบิดฟอร์มสุดยอด เหมากดคนเดียว 3 ลูกพาคลับไก่เก็บชัยเหนือทีมจากลีกเอิงได้สำเร็จ พร้อมผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายศึกยูโรป้าลีกในฐานะแชมป์กลุ่มเจ
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือเจ้าบ้าน ซึ่งผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ 32 ทีมสุดท้ายในศึกยูโรป้าลีกแน่นอนแล้ว ทำให้เลือกส่งตัวสำรองและดาวรุ่งลงเล่นหลายราย โดยวาง ซน ฮึง มิน ยืนเป็นหน้าเป้าคอยทำเกมรุกร่วมกับ เอริค ลาเมลา, คลินตัน เอ็นเจ และ จอช โอโนมาห์
ด้านทีมเยือนของ เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม ต้องคว้าชัยชนะให่ได้สถานเดียวเท่านั้น และลุ้นคู่แข่งร่วมสายอย่างอันเดอร์เลชท์แพ้ จึงจะพลิกสถานการณืเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่ม โดยเลือกใช้สามประสานในแนวรุกเป็น เจา มูตินโญ, ลาชินา ตราโอเร และ สเตฟาน เอล ชาราวี
เริ่มเกมได้เพียง 2 นาทีเท่านั้น เป็นสเปอร์สที่พังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เอ็นเจ จ่ายไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ เบน เดวิส วิ่งไปตบเข้ากลางต่อให้ ลาเมลา ตวัดแปด้วยซ้ายระยะเผาขนเข้าไป ส่งให้เจ้าบ้านออกนำตั้งแต่ไก่โห่ที่ 1-0
ถัดมานาทีที่ 15 คลับไก่มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ฮึง มิน จ่ายบอลให้ ลาเมลา ลากไปซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลกระดอนพื้นจนทำให้ ดาเนียล ซูบาซิช ปัดไม่ออก บอลปลิ้นเสียบโคนเสาเข้าไป ทำให้สเปอร์สหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นนาทีที่ 37 ไก่เดือยทองมาใส่สกอร์ที่สามได้อีก จากจังหวะที่ ฮึง มิน ไหลให้ ลาเมลา ยิงด้วยขวาตามน้ำแบบไม่ต้องจับจากหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลเรียดเสียบโคนเสามุมเดิมเหมือนสองประตูแรกเข้าไป เป็นแฮตทริคของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้เจ้าบ้านนำห่างเป็น 3-0
อย่างไรก็ตาม คลับไก่กลับต้องมาเสียตัวหลักในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 42 เมื่อ เอริค ไดเออร์ ประสบปัญหาบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ต้องส่ง นาบิล เบนทาเล็บ ลงมาแทน ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกเป็นเจ้าบ้านที่นำอยู่ 3-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง โมนาโกที่สกอร์เป็นรองถึงสามลูก ต้องรีบแก้เกมทันทีด้วยการเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก ส่ง โธมัส เลมาร์ ลงมาแทน เมาตินโญ ซึ่งแผลงฤทธิ์ไม่ออกในช่วง 45 นาทีแรก
หลังจากพยายามบุกอยู่นาน ทีมจากลีกเอิงก็มาตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบาปเป้ ล็อตแตง กระชากขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนจะจ่ายให้ เอล ชาราวี บรรจงปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลโค้งกระดอนเสียบโคนเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้โมนาโกไล่มาเป็น 1-3 ในนาทีที่ 61
แต่แล้วในนาทีที่ 77 สเปอร์สก็มาบวกลูกสี่เพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ทอม คาร์โรลล์ เก็บตกบอลได้ในเขตโทษ ก่อนจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลื้อยหลบแนวรับโมนาดกเลาะเส้นหลังก่อนจะยิงมุมแคบด้วยซ้ายส่งบอลลอดขา ซูบาซิช เข้าไป ทำให้คลับไก่นำห่างถึง 4-1
จากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นไก่เดือยทองที่เปิดไวท์ ฮาร์ท เลน เอาชนะไป 4-1 ส่งผลให้บทสรุปของกลุ่มเจเป็นท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ที่จบด้วยการเป็นแชมป์ของสาย กอดคออันดับ 2 อย่างอันเดอร์เลชท์ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ 32 สุดท้ายได้สำเร็จ