โอริกิแฮตทริค! หงส์บุกรัวนักบุญไม่ยั้ง 1-6 ฉลุยตัดเชือกลีกคัพ

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 3 ธ.ค. 2558 09:06:42 น. เข้าชม 811 ครั้ง แจ้งลบ


ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โชว์ฟอร์มสวยหรูแม้จะบุกไปโดนนักบุญนำก่อน แต่กลับยิงแซง 6 ประตูรวด รวมถึงแฮตทริคของ ดิว็อก โอริกิ ส่งหงส์แดงผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป

ทีมนักบุญเจ้าบ้านแพ้มา 2 นัดติดต่อกันให้กับสโต๊ก ซิตี้และแมนฯ ซิตี้ วันนี้กุนซือโรนัลด์ คูมันเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงจากเกมก่อนถึง 5 ตำแหน่งโดยเซดริค โซอาเรสกับสตีเวน คอลเกอร์จได้ลงมาประจำการในเกมรับ แดนกลางจะได้ยอร์ดี้ คลาซีและดูซาน ทาดิชทำเกม ส่วนหน้าเป้าวันนี้กลาเซียโน่ เปลเล่รับหน้าที่ล่าตาข่าย

ทางด้านทีมเยือนของเจอร์เก้น คล็อปป์ที่ฟอร์มกำลังดีชนะมา 3 นัดติดต่อกัน วันนี้สลับผู้เล่นจากเกมเอาชนะสวอนซีถึง 6 คนด้วยกัน โดยผู้รักษาประตูเป็นโอกาสของอดัม บ็อกดาน ที่ได้ทำหน้าที่แทนซิมง มิโยเล่ต์ ตำแหน่งแบ็คขวาเซอร์ไพรซ์พอสมควรด้วยการส่งคอนเนอร์ แรนดอลล์ ดาวรุ่งวัย 20 ปีลงเล่น กองกลางได้ลูคัสกลับมาจากโทษแบนทำเกมร่วมกับโจ อัลเลนและเอ็มเร่ ชาน ส่วนกองหน้าแดเนียล สเตอร์ริดจ์กลับมาจับคู่กับดิว็อก โอริกิ โดยกัปตันทีมอย่างจอร์แดน เฮ็นเดอร์สันมีชื่ออยู่ในลิสต์ตัวสำรองรวมไปถึงเบ็นเตเก้และเฟร์มิโน่

เริ่มเกมได้ไม่ถึงนาที เจ้าบ้านก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากการทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนไรอัน เบอร์ทรานด์จะครอสส์เข้าไปที่เสาสอง ซาดิโอ มาเน่เทคตัวขึ้นโหม่งเอาชนะอัลแบร์โต้ โมเรโน่ผ่านมือบ็อกดานเข้าไป เซาแธมป์ตัน 1 ลิเวอร์พูล 0

ผ่านไป 15 นาทีเกมของเจ้าบ้านยังดูดีกว่า โดยการทำเกมรุกขึ้นมาเปิดบอลจากด้านข้างได้ลุ้นแทบทุกครั้ง ส่วนทีมเยือนยังตั้งเกมไม่ได้เลย การขึ้นเกมจากด้านหลังถูกปิดหมดจึงอาศัยการโยนบอลจากแดนหลังขึ้นไปซึ่งไม่มีประสิทธิภาพนัก

ถึงเกมเป็นรองแต่หงส์แดงก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 26 โจ อัลเลนรับบอลจากโอริกี้ที่ด้านขวาของสนามก่อนกองกลางชาวเวลส์จะเปิดโดค้งขวางสนามไปให้สเตอร์ริดจ์จับบอลในจังหวะแรกไม่ค่อยดีแต่ยังแตะหลบกองหลังของนักบุญก่อนซัดด้วยซ้ายเสียบเสาสองอย่างเฉียบขาด สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

สามนาทีให้หลัง ลิเวอร์พูลมาแซงนำจนได้ ลัลลานาต่อบอลอย่กับเอ็มเร่ ชาน ก่อนมิดฟิลด์ชาวเยอรมันจะเปิดบอลด้วยข้างเท้าด้านนอกอย่างเหนือชั้นข้ามกองหลังให้สเตอร์ริดจ์ที่วิ่งทะลุขึ้นมาทางด้ายซ้ายแปด้วยเท้าขวาบอลลอดตัวของสเตเคเลนเบิร์กเข้าประตูไปในนาทีที่ 29 ทีมเยือนขึ้นนำ 1-2 รวมถึงเป็นประตูที่สองในการกลับมาของกองหน้าจอมแดนซ์ของหงส์แดงด้วย

หลังจากตกเป็นฝ่ายตามหลัง เกมของเจ้าบ้านก็แผ่วไปอย่างน่าใจหาย โดยกลายเป็นฝั่งอาคันตุกะที่มีจังหวะลุ้นได้ประตูเพิ่มมากกว่าก่อนจะมาพังประตูที่ 3 จนได้ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจากจังหวะเตะมุมเข้ามาของลัลลานาที่ถูกโหม่งสกัดออกมาหน้ากรอบเขตโทษ และเป็นโมเรโน่วิ่งเข้าตะบันวอลเลย์บอลเรียดพื้นเสียบเสาแรกก่อนแฉลบเท้าของโอริกิเล็กน้อยเข้าประตูไปส่งให้ลิเวอร์พูลปิดจ็อบในครึ่งแรกด้วยการบุกมานำอยู่ 1-3

ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้เล่นและเป็นเซาแธมป์ตันที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลเหมือนในครึ่งแรกและมีโอกาสก่อนในจังหวะที่ทาดิชยกบอลข้ามศรีษะของมาร์ติน สเคอร์เทลให้เปลเล่ตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือของบ็อกดาน

นาทีที่ 59 หงส์แดงมีการเปลี่ยนแปลงที่ข้างสนามก่อนโดยคล็อปป์ตัดสินใจพักสเตอร์ริดจ์ที่วันนี้ทำไป 2 ประตูฉลองการกลับมาจากอาการบาดเจ็บออกไปพักก่อนแล้วส่งจอร์ดอน ไอบ์ลงเล่นแทนในแนวรุก

โรนัลด์ คูมันปรับหมากแก้เกมเช่นกันโดยทำการเปลี่ยนตัวสองคนรวดในนทีที่ 63 ส่งเชน ลองลงเล่นแทนยอร์ดี้ คลาซี่ และเจมส์ วอร์ด-เพราส์ลงไปเพิ่มมิติในแดนกลางแทนซดริค โซอาเรส

สกอร์บอร์ดเปลี่ยน 1-4 ในนาทีที่ 68 จากฝีเท้าของดิว็อก โอริกิที่วิ่งทะลุแนวรับของเจ้าบ้ายไปรับบอลที่แทงมาจากกลางสนามโดยไอบ์ก่อนจะสับด้วยเท้าขวาเต็มข้อส่งบอลพุ่งโด่งเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม

ยังไม่ทันได้หายใจหายคอสะดวกเท่าไร ความหวังเข้ารอบรองฯ ของเจ้าบ้านก็แทบถูกทำลายหมดสิ้นด้วยประตูที่ 5 ของทางฝั่งลิเวอร์พูลในนาทีที่ 73 จากจังหวะครอสส์จากด้านซ้ายของสนามโดยโมเรโน่ให้ไอบ์พักอกลงตรงกรอบเขตโทษก่อนวอลเลย์ด้วยเท้าขวาส่งบอลตุงตาข่ายเป็นประตูที่สวยงามอีกลูกหนึ่งของทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์

ดิว็อก โอริกีมาทำแฮ็ตทริกจนได้ในาทีที่ 86 จากลูกแอสซิสต์จากเท้าซ้ายของแบรด สมิธ ดาวรุ่งที่ลงมาแทนโมเรโน่ เปิดบอลจากริมเส้นเข้าศรีษะของดาวยิงชาวเบลเยียมโขกเต็มๆ ส่งให้ลิเวอร์พูลการันตีเข้ารอบรองฯ ได้เลย

ช่วงท้ายยังคงเป็นทีมเยือนที่เล่นอย่างมั่นใจกว่า ผิดจากเจ้าบ้านที่ถอดใจไม่ไล่บอลแล้วจนหมดเวลาลิเวอร์พูลเอาชนะเซาแธมป์ตันมโหฬารถึง 1-6 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศศึกแคปิตอล วัน คัพของอังกฤษรอประกบคู่ต่อไป