โพสต์โดย : Admin เมื่อ 25 พ.ย. 2558 05:30:30 น. เข้าชม 942 ครั้ง แจ้งลบ
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี)
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2558
ยูเวนตุส (อิตาลี) - แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด เวลา : 02.45 น. ช่อง : ทรูสปอร์ต เอชดี 2
สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม (ตูริน, อิตาลี)
ยูเวนตุส ของ มัสซิมิลิอาโน่ อัลเลกรี เปิดบ้านเชือดหวิว เอซี มิลาน 1-0 พร้อมคว้าชัยในลีก 2 นัดติด
ส่วนสถานการณ์ของในรายการนี้ "ม้าลาย" ต้องการชัยชนะหรือลุ้นให้ เซบีย่า ไม่ชนะ พวกเขาจะตีตั๋วสู่รอบต่อไปทันที โดยเกมล่าสุดบุกไปแบ่งแต้ม มึนเช่นกลัดบัค 1-1
สภาพทีมล่าสุด แอร์นาเนส ที่ติดโทษแบนอยู่แล้ว ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาและต้องพักราว 3 สัปดาห์ ขณะที่ โรแบร์โต้ เปเรย์ร่า (ต้นขา) และ ซามี่ เคดิร่า (ต้นขา) วืดไปด้วยเช่นกัน
สำหรับ มาร์ติน กาเซเรส (ต้นขา), ปาทริซ เอวร่า (ข้อเท้า) ต้องรอประเมินความฟิตต่อไป
จานลุยจิ บุฟฟ่อน ประจำการหน้าปากประตู 3 แนวรับเป็น อันเดรีย บาร์ซายี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ และ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ แดนกลางส่ง สเตฟาโน่ สตูราโร่ ไปประสานงานกับ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และ ปอล ป๊อกบา เกมริมเส้นเลือก สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ กับ อเล็กซ์ ซานโดร คู่กองหน้าวาง เปาโล ดีบาล่า ล่าประตูกับ มาริโอ มานด์ซูคิช
แมนฯ ซิตี้ ของ มานูเอล เปเยกรินี่ ฟอร์มสะดุดต่อเนื่องหลังไม่ชนะในลีกมา 2 เกมติด ล่าสุดพ่ายคาบ้านแบบยับเยินต่อ ลิเวอร์พูล 1-4 พร้อมหล่นจากบัลลังก์จ่าฝูง
ส่วนในรายการนี้ "เรือใบสีฟ้า" ลิ่วสู่รอบต่อไปเรียบร้อยแล้ว แต่หากชนะนัดนี้ จะจองตำแหน่งแชมป์กลุ่มด้วย
ความพร้อมเกมนี้ แข้งเดี้ยงไม่ว่าจะเป็น ดาบิด ซิลบา (ข้อเท้า), แว็งซ็องต์ ก็องปานี (น่อง) และ วิลฟรีด โบนี่ (เอ็นหลังหัวเข่า) ยังไม่พร้อมคืนสนามเหมือนเดิม
ขณะที่ ซามีร์ นาสรี่ เข้ารับการผ่าตัดเส้นเอ็นที่ขา และคาดว่าต้องพักราว 4-5 เดือน
ล่าสุด ต้องรอประเมินความฟิตของ เอเลียควิม ม็องกาล่า ที่ไม่ได้ลงซ้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โจ ฮาร์ท เฝ้าเสาตามปกติ แนวรับใช้งาน นิโกลัส โอตาเมนดี้ กับ มาร์ติน เดมิเคลิส เป็นคู่ปราการหลัง แบ็กขวา-ซ้ายจัด บาการี่ ซาญ่า และ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แดนกลางให้ ยาย่า ตูเร่ เชื่อมเกมกับ แฟร์นันโด แผงรุกปล่อย เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรอยน์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ร่วมกันวาดลวดลายข้างหลัง เซร์คิโอ อเกวโร่
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูเวนตุส (3-5-2) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - อันเดรีย บาร์ซายี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ - สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, สเตฟาโน่ สตูราโร่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ปอล ป๊อกบา, อเล็กซ์ ซานโดร - เปาโล ดีบาล่า, มาริโอ มานด์ซูคิช
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - บาการี่ ซาญ่า, นิโกลัส โอตาเมนดี้, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันโด - เฆซุส นาบาส, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง - เซร์คิโอ อเกวโร่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ บริช (เยอรมัน)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ยูเวนตุสชนะในเกมแรกที่เจอกัน 2-1 เมื่อกันยายนที่แล้ว
โดยเป็นฝ่ายทำประตูได้ทั้งหมด (จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อน
มาริโอ มานด์ซูคิช และ อัลบาโร่ โมราต้า ทวงคืน)
- ยูเวนตุสไม่แพ้ใน 4 เกมหลังสุดที่พบแมนฯ ซิตี้ (ชนะ 2 เสมอ 2)
ขณะที่เกมเดียวที่ซิตี้ชนะ เกิดขึ้นในยูฟ่า คัพ 1976-77 (1-0 ในเกมแรก
แต่แพ้ 1-2 ในสกอร์รวม)
- แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยยิงได้มากกว่า 1 ประตูในการเจอยูเวนตุส (5 เกม)
- ยูเวนตุส ไม่แพ้ใน 11 เกมชปล.หลังสุดที่ยูเวนตุส สเตเดี้ยม (ชนะ 7 เสมอ
4) โดยทีมล่าสุดที่ชนะพวกเขาในบ้านคือ บาเยิร์น มิวนิค (0-2 เมษายน 2013)
- ยูเวนตุส ทำคลีนชีตได้ตลอด 2 เกมแรกที่เล่นในบ้าน ชปล. ฤดูกาลนี้
- ยูเว่แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 14 เกมชปล.หลังสุด (ชนะ 8 เสมอ 5) จากเกมนัดชิงชนะเลิศ 2015 ที่พบบาร์ซ่า
- ยูเวนตุส โดนใบแดงมากกว่าทีมอื่นในชปล. (21 ใบ นับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93)
- แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ชปล.เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไปไกลกว่ารอบ 16 ทีม
- แมนฯ ซิตี้ไม่เสมอ 0-0 ใน 32 เกมชปล. โดยทำคลีนชีตแค่ 4 ครั้ง มีเพียงบาเซิ่ลที่เล่นมากกว่าโดยไม่เสมอแบบไร้สกอร์ (46)
- 8 ประตูของแมนฯ ซิตี้ในชปล.ฤดูกาลนี้ มาจากผู้เล่นไม่ซ้ำหน้า :
เดมิเคลิส, อเกวโร่ "กุน", เดอ บรอยน์, สเตอร์ลิง, แฟร์นันดินโญ่, โบนี่
และทำเข้าประตูตัวเอง 2 (คิเอลลินี่และรามี่)
- ปอล ป็อกบา เป็นผู้เล่นที่พยายามยิงแต่ไม่เป็นประตู มากที่สุดในชปล. ฤดูกาลนี้ (17 ครั้ง)
- เกมต่อไปของ ปาทริช เอวร่า จะเป็นเกมที่ 100 ในปชล.ของเขอิบราแจงจะแขวนเกือกเมื่อหมดไฟ