พรีวิวฟุตบอล ลา ลีกา สเปน : เรอัล มาดริด - บาร์เซโลน่า

ปรีวิวฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2558
เรอัล มาดริด - บาร์เซโลน่า
ถ่ายทอดสด ช่อง : ทรูโฟร์ยู (เวลา : 00.15 น.)    

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (มาดริด)

        เรอัล มาดริด ของ ราฟาเอล เบนิเตซ สะดุดแพ้เป็นนัดแรกใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ จนได้ หลังออกไปแพ้ เซบีย่า 2-3 ทำให้หยุดสถิติไร้พ่ายไว้เพียง 10 นัดพร้อมหล่นมารั้งรองจ่าฝูง

        ความพร้อมล่าสุด เกย์ลอร์ นาวาส, มาร์เชโล่, ดาเนียล การ์บาฆาล รวมถึง ดาเนี่ยล การ์บาฆาล ใช้เวลาช่วงเบรกทีมชาติพักฟื้นจนฟิตพร้อมเป็นตัวเลือกเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งเจ็บไหล่จนถอนตัวจากทีมชาติสเปนในช่วงที่ผ่านมา รวมถึง แกเร็ธ เบล ที่เจ็บน่องจนไม่ได้เล่นให้ทีมชาติเวลส์ พร้อมประจำการแน่นอน

        รวมถึง คาริม เบนเซม่า ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม ท่ามกลางข่าวฉาวที่ว่าแบล็คเมล์เพื่อนร่วมชาติอย่าง มาติเยอ วัลบูเอน่า เลยต้องรอเช็คสภาพจิตใจว่าจะพร้อมเล่นหรือไม่

        เกย์ลอร์ นาวาส กลับมาเฝ้าประตูเป็นตัวจริง เซนเตอร์แบ็กเลือกส่ง ราฟาแอล วาราน จับคู่กับ เซร์คิโอ รามอส ที่ลงสนามในศึก "กลาซิโก้" ใน ลา ลีกา ครบ 20 นัดตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แบ็กขวา-ซ้ายเป็นดูโอ้แซมบ้า ดานิโล่ ดา ซิลวา กับ มาร์เชโล่

        แดนกลางใช้บริการของ ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส แผงรุกส่ง ฮาเมส โรดริเกซ กลับมาเป็นตัวจริงเคียงข้าง แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งได้พักมาเต็มๆ หลังได้รับอนุญาตให้ไม่ต้องไปรับใช้ทีมชาติโปรตุเกส โดยหัวหอกตัวเป้าเป็น คาริม เบนเซม่า

        บาร์เซโลน่า ของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กระโดดขึ้นสู่บัลลังก์จ่าฝูง ลา ลีกา ด้วยการฟาดชัย 4 นัดติด ล่าสุดเปิดบ้านถลุง บียาร์เรอัล 3-0

        สภาพทีมล่าสุด เอ็นรีเก้ ได้ข่าวดีเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ และ อิวาน ราคิติช สลัดเดี้ยงกลับมาซ้อมเรียบร้อยแล้ว แต่คงเป็นเพียงสำรองไปก่อน ส่วน ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ พ้นโทษแบนพร้อมคืนตัวจริง

        ส่วน ดักลาส เปเรยร่า กับ ราฟินญ่า อัลกันตาร่า เป็นเพียง 2 นักเตะที่ต้องพักรักษาตัวต่อไป

        เคลาดิโอ บราโว่ ประจำการด่านสุดท้าย แบ็กขวา-ซ้ายเป็น ดาเนี่ยล อัลเวส กับ จอร์ดี้ อัลบา คู่เซนเตอร์แบ็กเรียก เฌเรมี่ มาติเยอ มาจับคู่กับ เคราร์ด ปิเก้

ฃ        ขณะที่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ถูกดันขึ้นไปยืนกองกลางตามถนัดร่วมกับ เคลาดิโอ บราโว่ และ อันเดรส อิเนียสต้า แดนหน้าเลือกใช้ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ล่าประตูร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ ที่แบ่งกันเหมายิงทุกประตูในลีกตั้งแต่เกมแพ้ เซลต้า 1-4 (17 ประตู : ซัวเรซ - 8, เนย์มาร์ - 9)

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : เกย์ลอร์ นาวาส - ดานีโล่ ดา ซิลวา, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ - ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส - ฮาเมส โรดริเกซ, แกเร็ธ เบล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า

        บาร์เซโลน่า (4-3-3) : เคลา ดิโอ บราโว่ - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, เฌเรมี มาติเยอ, จอร์ดี้ อัลบา - เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อันเดรส อีเนียสต้า - เซร์จี้ โรเบร์โต้, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซานโตส จูเนียร์

        ผู้ตัดสิน : ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลาน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- 9 เกมหลังสุดที่เจอกันในลีกทั้งสองทีมต่างก็ยิงประตูใส่กันได้ ถือเป็นสถิติยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปี 1946-1952 เลย (13 เกมติด)
- เรอัล มาดริด ไม่แพ้เกมลีกในบ้านมาแล้ว 22 เกมติด (ชนะ 19 เสมอ 2) และเสียแค่ประตูเดียวจาก 5 เกมหลังด้วย
- ตลอด 100 เกมหลังสุดที่ เรอัล มาดริด เล่นในบ้านเกมลา ลีกา พวกเขายิงประตูไปถึง 338 ลูก เฉลี่ย 3.38 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว
- บาร์เซโลน่า ยิงประตูมาตลอด 15 เกมหลังที่ออกไปเยือนในลีก โโยกดไปทั้งหมด 41 ลูก เฉลี่ยเกมละ 2.7 ประตูเลย
- ในเกมลีกนัดล่าสุดกับ เซบีย่า, เรอัล มาดริด เสียประตูไป 3 ลูก น้อยกว่าที่พวกเขาเสีย 10 เกมก่อนหน้านี้แค่ลูกเดียว (4)
- ราชันชุดขาว ชนะสองเกมเท่านั้นจาก 7 เกมหลังที่เปิดบ้านพบกับ บาร์เซโลน่า ในลีก (เสมอ 1 แพ้ 4)
- นับรวมทุกรายการ เรอัล มาดริด ก็ชนะแค่ 3 จาก 12 เกมหลังที่เปิดบ้านพบกับ บาร์เซโลน่า (เสมอ 3 แพ้ 6)
- เรอัล มาดริด พบกับ บาร์เซโลน่า ในเกมนัดที่ 12 ของฤดูกาลมาแล้ว 7 หนก่อนครั้งนี้ โดยที่ "ราชันชุดขาว" ยิงไม่ได้ใน 3 หนหลัง (ปี 2004, 2005 และ 2009)
- ทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ แพ้ 2 จาก 3 เกมหลังที่ออกไปเยือนในลีก (ชนะ 1)
- ราชันชุดขาวยังไม่แพ้ในบ้านเกมลีกภายใต้การคุมทีมของ ราฟาเอล เบนีเตซ (ชนะ 4 เสมอ 1) โดยเสียแค่ประตูเดียวจาก 5 เกม
- ราฟาเอล เบนีเตซ แพ้ถึง 6 จาก 10 เกมหลังที่คุมทีมพบกับ บาร์เซโลน่า (ชนะ 3 เสมอ 1)
- เรอัล มาดริด ไม่เคยครองบอลมากกว่า บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่การพบกันเมื่อ 7 พฤษภาคม 2008 (54.3%)
- บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่ได้จุดโทษมากที่สุดในบรรดาทีมใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (8 หน)
- ในบรรดา 4 ทีมที่หาโอกาสยิงเข้ากรอบมากที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ (เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, เซลต้า บีโก้ และ เซบีย่า) เรอัล มาดริด เป็นทีมที่เปลี่ยนโอกาสเป็นประตูแย่ที่สุด (13.8%)
- ลิโอเนล เมสซี่ มีส่วนกับประตูที่ทีมทำได้ 8 จาก 9 ลูกหลังในการพบกับ เรอัล มาดริด ที่เบร์นาเบวรวมทุกรายการ (ยิง 5 แอสซิสต์ 3)
- หาก เมสซี่ ยิงได้ในเกมนี้ เขาจะกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของศึก "เอล กลาซิโก้" ทันที (อัจจุบันยิงไป 14 ลูก เท่ากับ ดิ สเตฟาโน่)
- ใน 17 ประตูหลังสุดที่ทีมเจ้าบุญทุ่มทำได้เป็นผลงานของ เนย์มาร์ (9) และ ซัวเรซ (8)
- เนย์มาร์ มีส่วนร่วมกับประตูของทีมถึง 16 จาก 19 ลูกหลังสุดรวมทุกรายการ (ยิง 10 แอสซิสต์ 6)
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตูในครึ่งแรก 6 จาก 8 ลูกที่ตัวเองทำได้ในฤโกาลนี้
- ดาวยิงโปรตุกีสเป็นนักเตะคนเดียวของทีมที่ออกสตาร์ทตัวจริงตลอดทั้ง 15 เกมรวมทุกรายการ