โพสต์โดย : Admin เมื่อ 25 ก.ค. 2564 02:44:57 น. เข้าชม 854 ครั้ง แจ้งลบ
นี่คือหนึ่งในสุดยอดดาวยิงที่อังกฤษ เคยมีมาเลยทีเดียว ผลงานการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 260 ประตู สามารถยืนยันขีดความสามารถในการล่าตาข่ายของเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสถิติที่ยากต่อการทำลายในระยะเวลาอันใกล้
เพราะคนที่ตามมาอย่างเวย์น รูนี่ย์ (208), แอนดี้ โคล (187), เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ (184), แฟร้งค์ แลมพาร์ด (177) และเธียร์รี่ อองรี (175) ต่างไม่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก แล้ว ขณะที่ผู้ที่ตามมาอีกคนอย่างแฮร์รี่ เคน ที่ยังคงโลดแล่นในลีกสูงสุดอยู่ ยิงรวมไป 166 ประตู ซึ่งถือว่าตามหลังเชียร์เรอร์ อยู่พอสมควร
แน่นอนว่า นอกจากการยิงประตูที่ดุดัน และยังหนักหน่วงแล้ว หนึ่งสิ่งที่แฟนบอลเห็นกันจนชินตา นั่นคือสิ่งที่เชียร์เรอร์ ทำหลังจากยิงประตูเป็นผลสำเร็จ กับท่าทางดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ อย่างการยกมือขึ้นมาเหนือศีรษะ จนกลายเป็นภาพคลาสสิกในตำนานเป็นที่เรียบร้อย หากใครคิดถึงเขา ภาพเหล่านี้ต้องย้อนมาในหัวอย่างแน่นอน
ช่วงนี้ .... เราลองไปย้อนความทรงจำกันหน่อยว่า ทำไมเชียร์เรอร์ ถึงทำท่าทางดีใจด้วยการยกมือขึ้นมา และแทบไม่เปลี่ยนแปลงท่าทางดีใจของตัวเองเลย ตลอดเส้นทางลูกหนังอาชีพที่ยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ
เชียร์เรอร์ เริ่มต้นกล่าวว่า การที่ยกมือขึ้นมานั้น ถือว่าเป็นท่าทางที่เขาเอาไว้ใช้แสดงความดีใจ ตอนยิงประตูได้ โดยมันเป็นแบบนี้มา นับตั้งแต่ที่เขายังเป็นเด็กเยาวชน
เขาบอกว่า ตัวเองทำท่าดีใจแบบนี้มาโดยตลอด จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกมการเล่น และกลายเป็นความเคยชินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถูกถามว่า ทำไมถึงชอบแสดงการดีใจด้วยการยกมือขึ้นมา ทั้งที่มีท่าดีใจมากมายให้เลือกใช้ เชียร์เรอร์ ออกมาเฉลยว่า เขาเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณนิดหน่อย โดยนิสัยของเขาที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก นั่นคือการเน้นไปที่ความเรียบง่ายเป็นหลัก
อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ บอกว่า นิสัยส่วนตัวของเขานั้น ถือว่าเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรแผลงๆ, แหวกแนว หรือโลดโผนนัก เพราะเขารู้สึกว่า สิ่งที่กล่าวมานั้น มันขัดต่อบุคลิกภาพของตัวเอง นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงด้วย
ดังนั้น การยกมือขึ้นมาตามธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่เขาชอบทำมากที่สุด โดยเพิ่มเติมว่า เขาไม่ชอบดีใจแบบสุดเหวี่ยง อาทิเช่น การตีลังกา หรือการสไลด์เข่าไปกับหญ้า เขามีความสุขกับการทำแบบนี้เท่านั้น แม้บางครั้งหลายคนจะมองว่ามันเชยก็ตาม
ย้อนเวลากลับไป ช่วงเวลาที่เชียร์เรอร์ ยิงประตูอย่างถล่มทลายมากที่สุด เกิดขึ้นในช่วงที่เขาเป็นนักเตะของสโมสรนิวคาสเซิ่ล จากผลงานการยิงประตูรวม 206 ประตู จนกลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร
ส่งผลให้บรรดาสาวก “สาลิกาดง” เห็นเขายกมือแสดงการดีใจนับครั้งไม่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม เชียร์เรอร์ บอกว่า การยกมือดีใจ และทำแบบนี้อยู่เสมอนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกันที่เขาต้องโดนแฟนบอลของนิวคาสเซิ่ล เปิดปากแซว พร้อมกับลุ้นให้เขาเปลี่ยนแปลงท่าทางดีใจใหม่ๆ แต่ดูเหมือนว่า แฟนบอลต้องพบกับความผิดหวัง
เชียร์เรอร์ กล่าวว่า ครั้งหนึ่ง เขาเคยนำสิ่งที่แฟนบอลแซวกลับมาทบทวนเหมือนกัน พร้อมกับมีความคิดที่อยากแสดงท่าทางดีใจใหม่ๆออกมาบ้าง นอกเหนือไปจากของเก่าอย่างการยกมือ
กระนั้น เขายอมรับตามตรงว่า เขาเคยยิงประตูได้ และพยายามบังคับตัวเอง ไม่ให้ยกมือขึ้นมา แต่ผลสุดท้ายแล้ว มือถูกยกขึ้นมาตามธรรมชาติอยู่ดี
เจ้าของฉายา "ฮอตช็อต" ออกมาทิ้งท้ายถึงอีกหนึ่งมุมมองว่าว่า การยิงประตูจะไม่มีประสบความสำเร็จอย่างยาวนานได้เลย หากขาดสิ่งที่เรียกกันว่า “ความมั่นใจ”
โดยเขาถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีความมั่นใจมาโดยตลอด นอกจากนี้ เขายังต้องพยายามทำลายความมั่นใจของผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
เชียร์เรอร์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ผมพยายามเล็งบอลให้เข้ากรอบ ไม่สำคัญหรอกว่า คุณเป็นกองหน้าระดับหัวแถวของโลก การยิงหลุดกรอบอยู่เป็นประจำ สิ่งเหล่านั้นแทบจะไร้ความหมายเลยทีเดียว”
อีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะเน้นย้ำคือ “คุณมีเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ในการตัดสินใจยิงประตู นั่นคือสิ่งที่วัดความเป็นกองหน้าที่ยอดเยี่ยม จงตัดสินใจ และลงมือทำ ในช่วงเวลาที่รวดเร็วให้ได้”
“ความแข็งแกร่งก็สำคัญ หมั่นออกกำลังกายร่างกายส่วนบน เอาไว้ชนกับกองหลัง ที่สำคัญคือร่างกายส่วนล่าง เพราะมันช่วยในเรื่องการทรงตัวระหว่างยิงประตู และเป็นการเพิ่มพลังในการยิง ผมทำงานหนักในเรื่องนี้มาในระหว่างที่อายุราว 16-22 ปี มันส่งผลเชิงบวกต่อเส้นทางลูกหนังที่เหลือ”