เอริคเซ่นเผยแฮปปี้งูแม้เคยคิดชิ่งหนี

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 9 พ.ค. 2564 04:13:42 น. เข้าชม 400 ครั้ง แจ้งลบ

คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลาง อินเตอร์ มิลาน ออกมาเปิดเผยว่าตนมีความสุขกับสโมสรอย่างมาก หลังจากเคยร้องขอย้ายทีมในช่วงก่อนหน้านี้

    อดีตเพลย์เมกเกอร์ สเปอร์ส วัย 29 ปี เพิ่งจะย้ายมายัง งูใหญ่ ในเดือนมกราคม ปี 2020 หลังจากตัดสินใจจบเส้นทางค้าแข้ง 7 ปีกับสโมสรแห่งนอร์ทลอนดอน

    แต่แค่ปีเดียว เอริคเซ่น ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนสำคัญกับพลพรรค เนรัซซูรี่ และกำลังมองหาเส้นทางที่จะย้ายออกจากทีม

    สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด, วูล์ฟส์ และ เลสเตอร์ ต่างก็มีข่าวลือเชื่อมโยงกับดาวเตะทีมชาติเดนมาร์กในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

    เอริคเซ่น ยอมรับว่าเขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจัดการกับสไตล์การคุมทีมที่เข้มงวดของ อันโตนิโอ คอนเต้

    แต่ตอนนี้ หลังจากที่เริ่มปรับตัว และเข้าไปมีส่วนสำคัญในทีม พร้อมช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์เซเรีย อา ครั้งแรกในรอบ 11 ปี เอริคเซ่น ก็ยืนยันว่าเขากระตือรือร้นที่จะสร้างสิ่งสวยงามในถิ่นซาน ซิโร่

    "ผมเต็มใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เมื่อผมมาถึง" เอริคเซ่น กล่าวผ่าน กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต

    "ผมไม่เข้าใจว่าผมต้องอยู่กับระบบของ คอนเต้ ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ผมมีอิสระที่จะตัดสินใจตามสิ่งที่ผมเห็น มันเกี่ยวกับเรื่องของการใช้สัญชาตญาณจำนวนมาก"

    "ตอนนี้มันมีแผนทั่วไปที่เราต้องทำตาม...เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเราอยู่ตรงไหน และตรงไหนที่พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ไปได้"

    "ผมต้องเรียนรู้ทั้งหมดนี้ และปรับตัวให้เข้ากับสิ่งที่แตกต่างออกไป"

    "เราได้พูดคุยกันในเดือนมกราคม และผมได้พิสูจน์แล้วว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง"

    "ผมไม่ได้จะแค้นอะไร ผมแค่เล่นฟุตบอล บางครั้งมันก็ดี บางครั้งมันก็ไม่ นี่คือกีฬาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเกือบจะทุกสัปดาห์"

    "หกเดือนที่แล้วผมอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป ตอนนี้เรามีถ้วยแชมป์ และผมสามารถบอกได้เลยว่าผมมีความสุขมากที่ อินเตอร์"

    "มันยากที่จะคว้าแชมป์ลีก แต่เราก็ทำได้ขณะที่ยังเหลืออีก 4 เกม"

    "คอนเต้ มีความสำคัญมากสำหรับเราแต่ละคนในวิธีการเล่น เราติดตามเขา และคุณจะเห็นสิ่งนั้นในสนาม"

    "ทุกคนมีความสุขมากที่ได้แชมป์ร่วมกับเขา... แต่การที่เขายังอยู่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม มันขึ้นอยู่กับสโมสร และตัวเขา"


ขอบคุณข้อมูล 

ติดตามบทความได้ที่ : https://www.thsport.com/news-115218.html