หลังจากที่ต้องเร่งก่อสร้างอย่างหนักและล่าช้าไปหลายวัน ในที่สุด เอสตาดิโอ เซนเตนาริโอ สนามความจุด 90,000 ที่นั่ง ที่สร้างมาเป็นพิเศษเพื่อทัวร์นาเมนต์นี้ ก็ยังไม่พร้อมจะใช้งาน จนกระทั่งถึงวันที่ 5 ของการแข่งขัน นั่นหมายความว่าเกมนัดเปิดสนาม จำต้องย้ายไปเล่นในสนามใกล้เคียงอย่าง เอสตาดิโอ กราน ปาร์ค และ เอสตาดิโอ โปซิโตส แทน
ฝรั่งเศสและเม็กซิโก เป็นสองทีมที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกนัดแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1930 ซึ่งฝรั่งเศสเป็นฝ่ายชนะไปขาดลอย 4-1 โดย ลูเซียง โลรองต์ ทำประตูแรกในประวัติศาสตร์เวิลด์คัพได้ในนาทีที่ 19 ของการแข่งขัน
อย่างไรก็ดี เกมนัดถัดมาของฝรั่งเศสก็เกิดเรื่องเจ้าปัญหาขึ้น เมื่อทีมจากยุโรปเป็นฝ่ายตามหลังอาร์เจนตินาอยู่ 1-0 ทว่ากรรมการกลับเป่าหยุดเกมในจังหวะที่ทีมแดนน้ำหอมกำลังบุกจะทำประตู โดยเป็นนกหวีดยาวหมดเวลา ทั้งที่การแข่งขันยังเหลืออยู่ถึง 6 นาที
ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์นี้คือ กิเยร์โม สตาบิล ซึ่งเป็นเพียงตัวสำรองที่ถูกเรียกมาในทีมอาร์เจนตินาแทนที่มานูเอล แฟร์ไรย์รา กองหน้าเบอร์หนึ่ง ซึ่งพลาดการลงแข่งกับทีมเม็กซิโก เพื่อไปเข้าสอบของมหาวิทยาลัย
อาร์เจนตินาเป็นแชมป์กลุ่ม เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา, อุรุกวัย และยูโกสลาเวีย ก่อนที่สองทีมตัวแทนจากอเมริกาใต้จะถล่มคู่แข่งด้วยสกอร์ 6-1 ทั้งคู่ โดยอาร์เจนตินาชนะสหรัฐอเมริกา ส่วนอุรุกวัยเป็นฝ่ายทุบยูโกสลาเวีย
นั่นเป็นการย้อนรอยคู่ชิงโอลิมปิค 1928 และแม้ว่าจะเป็นฝ่ายตามหลังอยู่ 2-1 ในช่วงพักครึ่ง เจ้าภาพอุรุกวัยก็เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนในครึ่งหลัง
เนื่องจากปัญหาที่ถกเถียงกันก่อนเกมจะเริ่มต้น ในเกมนัดชิงชนะเลิศนี้จึงเลือกใช้บอลสองลูกที่แตกต่างกันในแต่ละครึ่ง โดยลูกฟุตบอลของทางอุรุกวัยนั้นใช้ในครึ่งหลัง
และดูเหมือนว่าบอลลูกดังกล่าวจะเป็นใจให้เจ้าภาพเหลือเกิน เมื่อสามประตูของสามนักเตะอย่าง เปโดร เซ, ซานโตส อิริอาริเต และ เอคตอร์ คาสโตร ซึ่งมีแขนเดียวเพราะอุบัติเหตุในวัยเด็ก ส่งผลให้พวกเขาเป็นฝ่ายชนะไป 4-2 พร้อมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกมาครองได้สำเร็จ