ศึกสายเลือดของสองทีมดังจากเกาะอังกฤษที่โคจรมาเจอกันในรอบนี้ สำหรับศึกยูฟ่า
แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เป็นการพบกันระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เรือใบสีฟ้า”
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
การแข่งขันจะเริ่มต้นในคืนวันที่ 4 เมษายน เวลา 1.45น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งในรอบ 8
ทีมสุดท้ายของคู่นี้ จะเป็นการแข่งขันในนัดแรก โดยจะลงทำการแข่งขันที่สนามแอนฟิลด์
บ้านของลิเวอร์พูล
สำหรับฤดูกาลนี้ ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาก่อนแล้วในพรีเมียร์ลีก โดยนัดแรกที่เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายเปิดบ้านถล่ม ลิเวอร์พูล ไปถึง 5-0 ซึ่งเกมนั้นหงส์แดงต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10
คนตั้งแต่ครึ่งแรก หลัง ซาดิโอ มาเน่ ปีกจรวดของทีมโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม
ในจังหวะที่เข้าเล่นอันตรายใส่ เอแดร์สัน โมราเอส นายทวารทีมเจ้าบ้าน
ส่วนนัดที่สองในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนชนะไปได้แบบสุดมัน 4-3
ทั้งสองทีมต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
โดยความพร้อมของทั้งสองทีมเริ่มจากทางลิเวอร์พูล ของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์
คงต้องรอลุ้นเช็คความฟิตของอดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ แต่จะยังไม่มี นาธาเนียล ไคลน์
แบ็คขวา ส่วนกำลังหลักคนอื่น ๆ นั้นถือว่าอยู่กันพร้อมหน้า โดยเฉพาะสามประสานในแนวรุกอย่าง
ฟิร์มิโน่ มาเน่ และซาลาห์
ส่วนทางด้านเรือใบสีฟ้าของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า คาดว่าจะไม่มีเซร์คิโอ อเกวโร่
ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ลงเล่นในเลกแรก เนื่องจากยังคงมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่า
แต่ยังมีกาเบรียล เชซุส หัวหอกบราซิลที่พร้อมจะลงสนาม
ส่วนผู้เล่นตัวหลักในตำแหน่งอื่นก็พร้อมที่จะลงสนามเช่นกัน ทั้งเดอบรอยน์ ซิลบา และซาเน่
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล: (4-3- 3) ลอริส คาริอุส – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เดยัน
ลอฟเรน, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน –
โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้: (4-1- 4-1) เอแดร์สัน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซองต์ ก็อมปานี,
นิโคลัส โอตาเมนดี้, ฟาเบียน เดลฟ์ – แฟร์นันดินโญ่ – แบร์นาโด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด
ซิลบา, เลรอย ซาเน่ – กาเบรียล เชซุส
แม้ว่าแมนฯ ซิตี้จะเป็นทีมที่ครองบอลได้เหนียวแน่น
แต่เชื่อว่าจะต้องประสบปัญหาในการเจอผู้เล่นลิเวอร์พูลไล่เพรสซิ่งตลอดทั้งเกม
และเสียการครอบครองบอลไปทั้งที่ยังต่อบอลได้ไม่กี่จังหวะ
แล้วทำการสวนกลับเร็วทันทีโดยอาศัยความเร็วของมาเน่กับซาลาห์เป็นคนพาบอลขึ้นหน้า
โดยมีฟิร์มิโน่คอยพักบอลทำชิ่งให้กับเพื่อน ๆ ลุยไปจบสกอร์
ส่วนทางฝั่งแมนฯ ซิตี้ การโจมตีจากฝั่งซาเน่จะเป็นเป้าหมายหลักของทีม เนื่องจากอาร์โนลด์
แบ็คขวาของลิเวอร์พูลยังอ่อนประสบการณ์ในเกมระดับสูง ซึ่งน่าจะเป็นงานยากในการรับมือซาเน่
ทั้งสองทีมจะเป็นฝ่ายผลัดกันรุกรับ ซึ่งทางแมนฯ
ซิตี้จะพยายามดึงเกมให้ช้าแล้วหาช่องเข้าทำอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตามเกมรุกของลิเวอร์พูลยามเล่นในถิ่นตัวเอง พวกเขายิงประตูได้อยู่เสมอ
และเกมนี้ก็เชื่อว่าจะต้องมีประตูให้ทีมเจ้าบ้านอย่างน้อย 1 ประตู
แต่จุดอ่อนในเกมรับของผู้เล่นบางคนในทีมก็จะมีส่วนให้ทีมเสียประตูด้วยเช่นกัน
เมื่อต้องเจอกับทีมที่มีประสิทธิภาพในเกมรุกยอดเยี่ยมแบบนี้
ผลสกอร์ที่คาด: ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้