โพสต์โดย : Admin เมื่อ 2 ก.ค. 2559 10:56:54 น. เข้าชม 1030 ครั้ง แจ้งลบ
คณะกรรมการวินัยปรับหนักกระต่ายแก้ว โดยกุนซือชั่วคราวโดนแบน 2 นัดและปรับ 1.4 แสน จาก 2 ข้อหา ขณะที่สโมสรโดนอีก 4 หมื่น ส่วน วิษณุศักดิ์ นายทวารมือสองกิเลนถูกแบน 1 นัด
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงผลการประชุม ประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ดังนี้
สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี กับ สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
-หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก นายสุรชัย จตุภัทรพงศ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ด่าทอผู้ตัดสิน
-กองเชียร์สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ได้ปาแก้วน้ำลงมาที่สนามและด่าทอผู้ตัดสิน
-หมดเวลาการแข่งขันครึ่งเวลาหลัง ได้มี ผู้เล่นหมายเลข 39 นายวิษณุศักดิ์ แก้วเรือง ของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ผู้เล่นสำรอง) ได้ด่าทอผู้ตัดสิน
-ในช่วงแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน นายสุรชัย จตุภัทรพงศ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน โดยใช้คำพูดที่ไม่สุภาพผ่านสื่อ
ผลการพิจารณา
นายสุรชัย จตุภัทรพงศ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี
มีความผิดตามข้อ 2.7 กรณีด่าเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือ แสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาตินักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ หรือกองเชียรทีมคู่แข่งขันหรือบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากายหรือด้วยการโยนผลไม้ไปให้ ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 2 นัดและปรับเงิน 40,000 บาท
มีความผิดตามข้อ 2.11 วิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ ทำให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของ “สมาคม” หรือ “ผู้จัดการแข่งขัน” พิจารณาปรับเงิน 100,000 บาท
กองเชียร์สโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี
มีความผิดตามข้อ 4.1 ตะโกนด่านักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ทีมหรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันด้วยถ้อยคำที่หยาบคายอย่างเปิดเผย โดยเจตนาอย่างชัดเจนหรือพร้อมเพรียงกัน พิจารณาปรับเงิน 10,000 บาท
มีความผิดตามข้อ 4.4 ขว้างปาวัสดุใด ๆรวมทั้งผลไม้ลงไปในสนาม หรือปาใส่นักกีฬาหรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน พิจารณาปรับเงิน 30,000
ผู้เล่นหมายเลข 39 นายวิษณุศักดิ์ แก้วเรือง ของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
มีความผิดตาม ระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.9 ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยามหรือการเหยียดผิวหรือเชื้อชาติต่อเจ้าหน้าที่ทีม หรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน หรือนักกีฬา หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขันหรือบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากายหรือด้วยการโยนผลไม้ไปให้ทั้งภายในและภายนอกสนามแข่งขัน ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัดและปรับเงิน 20,000 บาท
สโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี กับ สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด
เหตุการณ์
เริ่มการแข่งขันช้ากว่าเวลาที่กำหนด 3 นาที เนื่องจากสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด รวมตัวกันบูมช้าเพราะผู้รักษาประตูเข้ามารวมกลุ่มเป็นคนสุดท้าย แล้วต้องเดินกลับไปที่ประตู ทำให้เกิดความล่าช้า 3 นาที โดยเริ่มการแข่งขันในเวลา 18.03 น.
ผลการพิจารณา
สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด มีความผิดที่ไม่ปฎิบัติตาม ขั้นตอนและการนับเวลาถอยหลังเพื่อเริ่มการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพฯ ครั้งที่ 1 เตือน เป็นลายลักษณ์อักษร โดยหากไม่ปฎิบัติตามขั้นตอนการนับถอยหลังในครั้งต่อๆไปปรับเป็นเงิน
สโมสรบีอีซี เทโรศาสน กับ สโมสรโอสถสภา เอ็ม 150 สมุทรปราการ เอฟซี
เหตุการณ์
การแข่งขันครึ่งแรกเริ่มเวลา 20.02 น. เนื่องจากสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ไปร้องเพลงต่อหน้ากองเชียร์ และกลับมาบูมต่อ
ผลการพิจารณา
สโมสรบีอีซี เทโรศาสน มีความผิดตาม ที่ไม่ปฎิบัติตาม (OFFICIAL COUNTDOWN) เป็นครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก จึงมีโทษตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ไม่สามารถเริ่มการแข่งขันได้ทันตามเวลาที่กำหนดในครึ่งเวลาแรกหรือครึ่งเวลาหลังหรือไม่ทำตามกำหนดการ ขั้นตอนและการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) จะถูกปรับเงิน 20,000 บาท
ขอบคุณภาพและข่าว www.goal.com/th