ศึก ยูโร 2016 รอบ 8 ทีมสุดท้ายคู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง โปแลนด์ กับ โปรตุเกส โดยทั้งสองทีมต่างขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม โปแลนด์ นำทัพโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ขณะที่ โปรตุเกส มี คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นตัวชูโรง
GOAL! เริ่มเกมเพียง 2 นาที โปแลนด์ ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังวหะที่ กรอซิคกี้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนปาดกลับไปหน้าประตูให้ เลวานดอฟสกี้ วิ่งเข้ามาแปบอลเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด โปแลนด์ ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
หลังเสียประตู โปรตุเกส พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังทำประตูคืน แต่กลายเป็น โปแลนด์ ที่เกือบได้ประตูที่สองจากลูกยิงไกลของ มิลิค บอลพุ่งหลุดกรอบไปนิดเดียว
ผ่าน 20 นาที กลายเป็น โปแลนด์ ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า ขณะที่ โปรตุเกส ยังไม่มีโอกาสยิงประตูตรงกรอบเลย
นาทีที่ 30 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตูเมื่อ นานี ฉกบอลจากแนวรับของ โปแลนด์ ได้ ก่อนส่งต่อให้ โรนัลโด้ ได้ตั้งป้อมสับไกยิงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลไปตรงตัวผู้รักษาประตู
GOAL! นาทีที่ 33 โปรตุเกส มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เรนาโต้ ซานเชส ทำชิ่งกับ นานี ก่อนได้สับไกยิงด้วยซ้ายเต็มข้อบอลแฉลบกองหลังเล็กน้อยผ่านมา ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เข้าไปไม่เหลือ โปรตุเกส ตีเสมอเป็น 1-1
จากนั้นไม่มีฝ่ายใดพังประตูเพิ่มได้ จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1
เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมเปิดเกมแรกกันอย่างสนุก แต่ยังหาจังหวะยิงแบบจะแจ้งกันไม่ได้ทั้งสองทีม
นาทีที่ 64 โปรตุเกส ได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะยิงไกลของ เซดริค โซอาเรส บอลพุ่งเป็นจรวดเฉียดสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว
นาทีที่ 78 จากจังหวะเตะมุมของโปรตุเกส นานี เปิดโค้งมาบริเวณจุดโทษให้ โชเซ ฟอนเต้ ขึ้นโขกเต็มศรีษะแต่ยังไปตรงตัว ฟาเบียนสกี้
จบ 90 นาทียังไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ เสมอกัน 1-1 ต้องสู้กันต่อในช่วงต่อเวลพิเศษ
โปแลนด์ ได้ลุ้นประตูในนาทีที่ 100 จากจังหวะที่ มิลิค พลิกหาโอกาสยิงไกลบอลหลุดกรอบไปไม่ไกล
อีก 2นาทีต่อมา โปรตุเกส ก็ได้ลุ้นเช่นกันจากลูกยิงไกลของ นานี บอลพุ่งแรงแต่ ฟาเบียนสกี้ ก็ยังยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้สบาย
ผ่านมา 110 นาที เกมเริ่มเนือยลง ทั้งสองทีมต่างเน้นความแน่นอนในการจ่ายบอล
จบ 120 นาที ยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
สุดท้ายกลายเป็น โปรตุเกส ที่ยิงได้แม่นกว่าสังหารเข้าทั้ง 5 คน ขณะที่ โปแลนด์ บลาซซีคอฟสกี้ ยิงไม่เข้า ทำให้ โปรตุเกสเอาชนะไปในการดวลจุดโทษ 5-3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รอเข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง เวลส์ กับ เบลเยียม