พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบชิงชนะเลิศ : คริสตัล พาเลซ - แมนฯ ยูไนเต็ด

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 21 พ.ค. 2559 04:26:37 น. เข้าชม 993 ครั้ง แจ้งลบ

ฟุตบอล,เอฟเอ คัพ


        เดินทางมาสู่ 2 ทีมสุดท้ายแล้วสำหรับบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะอังกฤษ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกนำโดย เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีม เกมดวลแข้ง "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤา (รอบชิงชนะเลิศ) คืนวันเสาร์ที่ 21 พ.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ
(รอบชิงชนะเลิศ)
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559
คริสตัล พาเลซ - แมนฯ ยูไนเต็ด
ถ่ายทอดสด
: ช่อง 7 (เวลา 23.30 น.)


สนาม : เวมบลีย์

        เกมเอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยรายการเก่าแก่ที่สุดของโลก รอบชิงชนะเลิศ คริสตัล พาเลซ พบ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยคู่นี้เคยเจอกันมาในเกมรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 1990 ซึ่งหนนั้นทีมปีศาจแดงชนะได้แชมป์ไปครอง

        ดิ อีเกิ้ลส์ ยังไม่เคยได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มาก่อน นี่เป็นการเข้าชิงชนะเลิศครั้งที่ 2 ของพวกเขา ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด สะสมแชมป์ เอฟเอ คัพ มาแล้วถึง 11 สมัย แต่หนสุดท้ายที่ได้แชมป์ต้องย้อนไปถึงปี 2004 โน่น

        คริสตัล พาเลซ ของ อลัน พาร์ดิว ตบ วัตฟอร์ด 2-1 ในเกมรอบรองชนะเลิศ โดยตลอดเส้นทางพวกเขาน็อคคู่แข่งในเกมเดียว ชนิดไม่ต้องเล่นนัดแข่งใหม่เลย

        ดิ อีเกิ้ลส์ ออกไปโดน เซาธ์แฮมป์ตัน ต้อนเละ 1-4 เกมพรีเมียร์ ลีก นัดสุดท้าย โดยพักตัวหลักไว้บาน

        ความพร้อมเกมนี้ทีมได้ตัว วิลฟรีด ซาฮา หายเจ็บขากลับมาพร้อมซดทีมเก่า โดยจะประสานงานเดินเกมรุกร่วมกับ เจสัน พันชอน และ ยานนิค โบลาซี่ย์

        ด้าน โยอัน กาบาย และ คอเนอร์ วิคแฮม เองก็สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาคืนทีมได้ทันเวลาทั้งคู่ แต่รายของ วิคแฮม ต้องแย่งตำแหน่งกองหน้ากับ ดไวท์ เกย์ล

        มิดฟิลด์คู่กลางเองก็น่าจะยึด กาบาย คุมเกมร่วมกับ ไมล์ เยดินัค ขณะที่ โจ เลดลี่ย์ เจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่น

        หลังบ้าน สกอตต์ แดน ที่ได้พักนัดก่อน จะกลับมาคืนตัวจริงผนึกกำลังกับ เดเมี่ยน เดลานี่ย์ , ปาเป้ ซัวเร่ และ โจเอล วอร์ด

        ตำแหน่งนายประตูก็จะเรียก เวย์น เฮนเนสซี่ ซึ่งได้พักไว้ในเกมที่แล้ว กลับมาเฝ้าเสา

        หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด นำทีมดับซ่า เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในรอบตัดเชือก อาศัยประตูช่วงทดเจ็บของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล พาทีมฝ่าด่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ หวังจะเอาแชมป์ เอฟเอ คัพ ชดเชยจากที่พลาดตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก

        ผีแดงเจองานไม่ยากนักในการมาถึงรอบนี้ มีที่หนักหน่อยคือการผ่านด่าน เวสต์ แฮม และ เอฟเวอร์ตัน เท่านั้น

        ทีมปีศาจแดงต้อน บอร์นมัธ 3-1 เกมพรีเมียร์ ลีก นัดส่งท้ายซึ่งเลื่อนมาแข่งเมื่อวันอังคาร ทำให้ความสดเป็นรอง คริสตัล พาเลซ พอสมควร

        สภาพทีมนั้นได้ตัว มารูยาน เฟลไลนี่ พ้นโทษแบน 3 นัดกลับมาคืนทีม แล้วก็อาจจะได้ลงตัวจริงทันทีถ้าทีมปรับระบบกลับมาเล่น 4-2-3-1

        แต่ถ้า แอลวีจี เลือกยึด 4-1-4-1 เหมือนนัดที่อัดทีม เดอะ เชอร์รี่ส์ เจ้าฟูคงต้องเป็นสำรองไปก่อน โดย ไมเคิล คาร์ริค จะรับบทยืนกลางรับคนเดียว

        ด้าน มาร์กอส โรโฮ , มัตเตโอ ดาร์เมียน , ทิโมที โฟซู เมนซาห์ 3 กองหลังต้องรอเช็กความฟิตทั้งหมด โดยรายของ โรโฮ น่าจะฟิตกลับมายืนแบ็คซ้ายได้ ทำให้ คาเมร่อน บอร์ธวิค แจคสัน จะหลุดไปนั่งสำรอง

        กองหลังอีก 3 รายยังยืนพื้น คริส สมอลลิ่ง , ดาเล่ย์ บลินด์ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย มี ดาบิด เด เคอา ที่เพิ่งจะชวดได้รางวัลถุงมือทองคำลงเฝ้าเสา

        อีกรายที่ต้องรอลุ้นความฟิตคือ มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน แต่ฟอร์มช่วงหลังก็ไม่ดีนัก ยังไงคงไม่ได้ลงตัวจริงแน่

        แนวรุก 3 ตัวยึดมั่น มาร์กซิยาล และ เวย์น รูนี่ย์ เป็นตัวยืน อีกคนต้องเลือกระหว่าง เจสซี่ย์ ลินการ์ด หรือ ฆวน มาต้า กองหน้าตัวเป้าจัด มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงล่าต่อเนื่อง


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        คริสตัล พาเลซ : เวย์ น เฮนเนสซี่ - โจเอล วอร์ด , สกอตต์ แดน , เดเมี่ยน เดลานี่ย์ , ปาเป้ ซัวเร่ - ไมล์ เยดินัค , โยอัน กาบาย - วิลฟรีด ซาฮา , ยานนิค โบลาซี่ย์ , เจสัน พันชอน - ดไวท์ เกย์ล

        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย , คริส สมอลลิ่ง , ดาเล่ย์ บลินด์ , มาร์กอส โรโฮ - ไมเคิล คาร์ริค , มารูยาน เฟลไลนี่ - ฆวน มาต้า , เวย์น รูนี่ย์ , อองโตนี่ มาร์กซิยาล - มาร์คัส แรชฟอร์ด

        ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก

 


 เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
-ทั้งสองทีมเคยพบกันในเอฟเอ คัพ รอบชิงปี 1990 โดยนั่นคือการเข้าชิงครั้งเดียวของ คริสตัล พาเลซ ด้วย ผลคือ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ 1-0 ในนัดรีเพลย์ หลังจากเสมอกัน 3-3 และ อลัน พาร์ดิว กุนซือ ดิ อีเกิ้ลส์ ในปัจจุบันก็ลงเล่นทั้ง 2 เกมนั้น
- แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบชิงเอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007 และเป็นหนที่ 19 (ชนะ 11 แพ้ 7) โดยมีเพียง อาร์เซน่อล (12) ที่คว้าแชมป์รายการนี้มากกว่าผีแดง
- ผีแดงไม่สามารถคว้าแชมป์บอลถ้วยได้เลยตั้งแต่ปี 2004
- คริสตัล พาเลซ ไม่เคยเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ (เสมอ 2 แพ้ 2)
- ชัยชนะหนล่าสุดที่ ดิ อีเกิ้ลส์ มีต่อผีแดงเกิดขึ้นเมื่อพฤศจิกายน 2011 (บุกชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 2-1 ในลีก คัพ)
- แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ 15 จาก 20 เกมหลังสุดที่พบ คริสตัล พาเลซ รวมทุกรายการ (เสมอ 4 แพ้ 1)
- พาเลซ เอาชนะได้ตลอด 3 ครั้งหลังสุดที่มาเวมบลีย์ สเตเดี้ยม ซึ่งก็รวมถึง 2 เกมที่พบ วัตฟอร์ด ในรอบที่ผ่านมาด้วย (หนแรกปี 2007)
- นี่จะเป็นเกมที่ 14 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการมาเล่นที่นิว เวมบลีย์ โดยไม่มีทีมไหนที่มาเยือนที่นี่มากกว่าพวกเขา (เชลซี 14 เท่ากัน)
- ผีแดงคว้าชัยได้ 5 จาก 7 นัดหลังสุดที่นิว เวมบลีย์ (แพ้ 2) หลังจากที่ไม่ชนะเลยใน 6 ครั้งแรก (เสมอ 5 แพ้ 1)
- พาเลซ เอาชนะ 6 จาก 7 เกมหลังสุดในเอฟเอ คัพ ที่พบทีมจากพรีเมียร์ลีก (แพ้ 1)
- แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยได้ตลอด 2 นัดหลังสุดที่พบทีมจากพรีเมียร์ลีกในเอฟเอ คัพ หลังจากที่ไม่ใน 5 เกมก่อนหน้านั้น (เสมอ 2 แพ้ 3)
- มีเพียง เร้ดดิ้ง (14) ที่ยิงได้มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ ซีซั่นนี้ (12)
- อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มีส่วนร่วมกับประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ ถึงครึ่งหนึ่งในฤดูกาลนี้ (ยิง 2 แอสซิสต์ 4)
- มีนักเตะถึง 8 คนที่ยิงประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ใมนเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ ซึ่งมากที่สุด
- อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซ เป็นทีมที่มีนักเตะยิงประตูจำนวนมากที่สุดตามมาเป็นอันดับสอง (7 เท่ากับอีก 5 ทีม)
- คริสตัล พาเลซ มีสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ชนะถึง 83% ในเอฟเอ คัพ ซีซั่นนี้ที่มาจากการพบทีมจากลีกสูงสุด ซึ่งมันเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดตั้งแต่ที่ ลิเวอร์พูล ทำไว้ในปี 2006 (83% เท่ากัน)
- อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มีส่วนร่วมกับประตูถึง 25 ลูกจากทุกรายการในซีซั่นนี้ (ยิง 17 แอสซิสต์ 8) ซึ่งมากที่สุดในทีมผีแดง
- ฆวน มาต้า แอสซิสต์มากกว่านักเตะคนอื่นๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้รวมทุกรายการ (9) แต่เขาก็ทำได้เพียงครั้งเดียวจาก 8 เกมที่ผ่านมา
- มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงไป 8 ประตู จากโอกาสซัดตรงกรอบ 14 ครั้งให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในทุกรายการ
- นับตั้งแต่ แรชฟอร์ด เปิดตัวในฐานะนักเตะชุดใหญ่เกมแรกเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ ไม่มีแข้งผีแดงคนไหนเลยที่ยิงได้มากกว่าเขา (8)
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 8 และแพ้ 2 จาก 11 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ (เสมอ 1)