โพสต์โดย : Admin เมื่อ 7 เม.ย. 2559 05:31:18 น. เข้าชม 1199 ครั้ง แจ้งลบ
สนาม : ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค
เสือเหลือง ของเทรนเนอร์ โธมัส ทูเคิ่ล
ผลงานกำลังยอดเยี่ยมตลอดปี 2016 ยังไม่แพ้ใครเลย
ล่าสุดเกมลีกพลิกกลับมาเชือด แวร์เดอร์ เบรเมน 3-2 ทำให้ชนะ 18 จาก 20
นัดหลังสุดรวมทุกรายการ และตามหลังจ่าฝูง บาเยิร์น 5 แต้มเท่าเดิม
รอบที่แล้วในรายการนี้ ทูเคิ่ล ก็พาทีมผ่านทีมจากอังกฤษ
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยสกอร์รวม 5-1 เริ่มจากเปิดบ้านถล่ม 3-0
และบุกชนะอีก 2-1
สภาพทีมมีข่าวดี 3 ตัวหลัก มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, อิลคาย กุนโดกัน
และ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส กลับมาลงซ้อมเรียบร้อยตั้งแต่วันอังคาร
พร้อมบู๊เกมนี้แล้ว หลังพลาดเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์
ก่อนหน้านี้ ฮุมเมิ่ลส์
ขออนุญาติลาทีมไปทำธุระส่วนตัวก่อนเกมกับ เบรเมน, กุนโดกัน พัก 4
สัปดาห์จากปัญหาบาดเจ็บเท้า และ ปาปาสตาโธปูลอส ป่วย
(ติดเชื้อที่กระเพาะอาหาร)
จึงเหลือเพียง เนเว่น ซูโบติช เซนเตอร์ฮาล์ฟที่บาดเจ็บพักยาวตลอดช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้
คนเดียวที่คาดโทษใบเหลืองอยู่คือ สเวน เบนเดอร์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
การจัดทัพจะเต็มสูบแน่นอน ผู้รักษาประตูเปลี่ยนมาใช้ โรมัน
ไวเดนเฟลเลอร์ ที่เฝ้าเสาถ้วยยุโรป สลับกับ โรมัน เบือร์กี้ ที่เล่นเกมลีก
แผงหลัง ลูคัส พิสเช็ค แบ็กขวา คู่เซนเตอร์กลับมาใช้ มัทส์
ฮุมเมิ่ลส์ กับ โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส และแบ็กซ้าย มาร์เซล ชเมลเซอร์
แดนกลาง ยูเลียน ไวเกิ้ล ประสานงานกับ สเวน เบนเดอร์ แนวรุก
กอนซาโล่ กาสโตร, เฮนริค มคิทาร์ยาน, มาร์โค รอยส์ และศูนย์หน้าตัวเป้า
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยัง
ฝั่ง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์
ต้องมุ่งเน้นมาที่ถ้วยใบนี้ เพราะสถานการณ์ในลีกอยู่อันดับ 9
ตามพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 9 แต้ม แม้ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด
เกมลีกล่าสุดเปิดบ้านเสมอ สเปอร์ส 1-1 เมื่อวันเสาร์
โดยได้ประตูนำก่อนจาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แต่ก็ไม่ชนะ ทำให้ 2 นัดหลังในลีก
เก็บได้แต้มเดียว
ในรอบที่แล้วของถ้วยนี้ หงส์แดง ผ่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มาได้ในเกมแดงเดือด ด้วยสกอร์รวม 3-1 หลังนัดแรกในบ้านชนะมานิ่มๆ 2-0
สภาพทีมมีข่าวดี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
กองหน้าแซมบ้ามีชื่อบินไปเยอรมันด้วย แม้ต้องรอทดสอบความฟิต
หลังพลาดช่วยทีมมา 2 นัด รวมกับ 2 เกมทีมชาติก่อนหน้า
เพราะเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
แต่ข่าวร้าย ลูคัส เลว่า กองกลางตัวรับไม่ผ่านการทดสอบความฟิต
และ คริสติย็อง เบนเตเก้ ศูนย์หน้าเบลเยียมเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า
ในราย จอน ฟลานาแกน ฟูลแบ็กไม่มีชื่อลงทะเบียนเกมยุโรป พลาดช่วยทีมเหมือนเดิม
ส่วนที่ต้องระวังใบเหลืองเพิ่มมีถึง 5 คนคือ เนธาเนียล ไคลน์,
เดยัน ลอฟเรน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ฟิลิปเป้
คูตินโญ่ อาจโดนอีก จะติดโทษแบนเกม 2 ทันที
การจัดทัพชุดใหญ่แน่นอน ผู้รักษาประตู ซิมง มินโญเลต์ แผงหลัง
เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้ และ อัลเบร์โต้ โมเรโน่
แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ประสานงานกับ เอ็มเร่ ชาน และ
เจมส์ มิลเนอร์ สามประสานแนวรุกใช้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ แต่หาก ฟีร์มีโน่ ไม่เต็มร้อย ก็จะใช้ อดัม
ลัลลานา แทน
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ :
โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, ลูคัส พิสเช็ค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โซคราติส
ปาปาสตาโธปูลอส, มาร์เซล ชเมลเซอร์, ยูเลียน ไวเกิ้ล, สเวน เบนเดอร์,
กอนซาโล่ กาสโตร, เฮนริค มคิทาร์ยาน, มาร์โค รอยส์, ปิแอร์-เอเมอริค
โอบาเมยัง
ลิเวอร์พูล :
ซิมง มินโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้
โมเรโน่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์, ฟิลิปเป้
คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (อดัม ลัลลานา), แดเนียล สเตอร์ริดจ์
ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)
เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
- ทั้งสองทีมพบกันเป็นครั้งที่ 3 ในฟุตบอลยุโรป โดยสถิติคือต่างชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 เหมือนกัน
- ในชปล. รอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก ปี 2001-02 ลิเวอร์พูล ของ เชราร์ด
อุลลิเย่ร์ เสมอ ดอร์ทมุนด์ ของ มัทธิอัส ซามเมอร์ 0-0 ที่เยอรมัน
ก่อนจะชนะ 2-0 ในบ้าน ซึ่งเกมนั้น ฟิล ธอมป์สัน ทำหน้าที่คุมทัพหงส์แดง
หลังจาก อุลลิเย่ร์ มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ
- ดอร์ทมุนด์ เคยพบทีมจากอังกฤษ 21 ครั้ง ชนะ 11 เสมอ 4 แพ้ 6 (ชนะ 6 เสมอ 3
แพ้ 1 ในดอร์ทมุนด์) (ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 5 ที่อังกฤษ) พวกเขาเพิ่งเขี่ย
สเปอร์ส ตกรอบ 16 ทีมในซีซั่นนี้
- ลิเวอร์พูล เคยพบทีมจากเยอรมัน 34 ครั้ง ชนะ 16 เสมอ 12 แพ้ 6 (ชนะ 12
เสมอ 3 แพ้ 0 ในบ้าน) (ชนะ 2 เสมอ 8 แพ้ 5 ที่เยอรมัน) (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1
ในสนามกลาง)
- ดอร์ทมุนด์ เอาชนะได้ทั้ง 4 เกมในยูโรปา ลีก ตั้งแต่เข้าสู่รอบน็อกเอาต์
โดยเสียเพียงประตูเดียวเท่านั้น พวกเขาชนะ 6 จาก 7 นัดเหย้าในฤดูกาลนี้
โดยพ่ายคารังเพียงนัดเดียวให้กับ พีเอโอเค ในรอบแบ่งกลุ่ม
- ลิเวอร์พูล ที่ผ่าน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในรอบ 16
ทีมเก็บผลเสมอมามากกว่าครึ่งจาก 10 เกมในยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ (ชนะ 4 เสมอ
6) (ชนะ 1 เสมอ 4 นอกบ้าน) และเป็นหนึ่งจาก 3 ทีมที่ยังไม่แพ้ในยูโรปา ลีก
ฤดูกาลนี้เลยเหมือนกับ สปาร์ต้า ปราก และ ชัคตาร์ โดเนตส์ค
- ลิเวอร์พูล แพ้จุดโทษให้กับ เบซิคตัส ในรอบ 32 ทีมปีที่แล้ว และก็ เซนิต
ในรอบเดียวกันในปี 2012-13 โดยหงส์แดงที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในปี 1973,
1976 และ 2001 เข้ามาเล่นรอบก่อนรองฯ ครั้งล่าสุดปี 2009-10 ซึ่งก็ผ่าน
เบนฟิก้า มาได้ แต่ก็พ่าย แอต. มาดริด ในรอบตัดเชือก